วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

หนองคาย วันแรงงานแห่งชาติจังหวัดหนองคาย ปี 2561



หนองคาย วันแรงงานแห่งชาติจังหวัดหนองคาย ปี 2561
หนองคาย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดหนองคาย จัดงานวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2561 เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานได้ร่วมกิจกรรมแสดงพลังพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างจิตสำนึกในการทำงานร่วมกันอย่างสมานฉันท์ มั่นคงและปลอดภัย


          วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียมโชคกิตติภา อำเภอเมืองหนองคาย นายเกษมสันต์  เครือเจริญ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดหนองคาย ได้จัดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2561 โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน มีนายจิรศักดิ์  ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข นายจ้างลูกจ้าง พนักงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และพนักงานรัฐ เข้าร่วมกิจกรรม  ภายในงาน นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ได้มอบงบประมาณสนับสนุนการจัดกิจกรรม 



          นายเกษมสันต์  เครือเจริญ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันแรงงานของหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่กำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นวันแรงงานแห่งชาติ และเป็นวันหยุดตามประเพณีของผู้ใช้แรงงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงานที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในระบบเศรษฐกิจ ผู้ใช้แรงงานถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดผลผลิต ซึ่งแรงงานมีส่วนสำคัญมาก เพื่อเป็นการยกย่องความสำคัญของผู้ใช้แรงงานให้เกิดการพัฒนาคุณภาพ ความเป็นอยู่ตลอดจนสิทธิอันชอบธรรม ที่สมควรจะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง รัฐบาลได้เล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน  เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานโดยการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้แรงงาน ให้ได้รับความเป็นธรรมในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน มีความปลอดภัยในการทำงาน และ พรบ.ประกันสังคมยังได้ดูแลไปยังแรงงานนอกระบบตามมาตรา 40 อีกด้วย













          สำหรับการจัดกิจรรมครั้งนี้ เพื่อให้ความสำคัญแก่ประชาชนที่อยู่ในวัยแรงงานภายในจังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานภาครัฐ  ซึ่งได้จัดให้มีขบวนพาเหรด การแสดงของผู้ใช้แรงงาน การแข่งขันกีฬาสากล และกีฬามหาสนุก โดยบรรยากาศภายในงาน ผู้ใช้แรงงานทั้งชายและหญิงส่วนใหญ่ ต่างแต่งกายด้วยชุดไทยร่วมกิจกรรมสร้างสีสันภายในงานเป็นไปอย่างสนุกสนาน


มุกดาหาร สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร กว่า 200 คน เข้ายื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบการบริหารสหกรณ์ครูไม่โปร่งใส



           มุกดาหาร  สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร กว่า 200 คน ยื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าการตรวจสอบความไม่โปร่งใสการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร
            วันนี้ ( 30 เม.ย.61) นายสมประดิษฐ์ ไตรยวงศ์ ประธานสภาครูและบุคลากรทางการศึกษามุกดาหาร พร้อมด้วยสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร จำนวนกว่า 200 คน ได้ยื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิก สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร พร้อมรายชื้อผู้ได้รับความเดือดร้อน 1,400 คน ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หลังยื่นหนังสือศูนย์ดำรงธรรมตรวจสอบเมื่อต้นเดือนมกราคม 2561
   กรณีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร ได้ยื่นหนังสือ ขอให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหารและผู้มีอำนาจได้ตรวจสอบความไม่โปร่งใส การบริหารงานของสหกรณ์ครูมุกดาหาร ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ ของสหกรณ์ เช่น การเอื้อประโยชน์ต่อญาติมิตร ที่ไม่มีคุณสมบัติในการกู้สหกรณ์ รวมถึงไม่ติดตามทวงถามสมาชิกที่กู้เงินสหกรณ์ที่เกษียณหรือลาออก  ทำให้หนี้สงสัยจะสูญ ส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์ครูกว่า 3500 คนได้รับความเดือดร้อน ได้รับเงินปันผลน้อยกว่าที่ควรจะได้รับหลายเท่า ทั้งนี้โดยได้ยื่นได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 10 มกราคม  2561

     ในประเด็นหลัก 5 ข้อ คือ 1. ให้เปิดเผยรายชื่อลูกหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหารทุกคนที่เป็นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือหนี้สงสัยจะสูญ2. ขอให้นายทะเบียน/ผู้มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงิน"งบประมาณที่ตั้งไว้จ่ายหนี้สงสัยจะสูญ"ตั้งแต่หลังจากผู้ตรวจสอบบัญชีได้ตรวจเสร็จสิ้นและมีการรับรองแล้ว(ก่อนปันผลและหลังปันผล) ว่า ได้นำไปจ่ายให้ลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือหนี้สงสัยจะสูญรายใดบ้างแล้ว และนำมารายงานให้สมาชิกทราบอย่างเปิดเผยโปร่งใสโดยทั่วกัน  3. สหกรณ์ฯ แก้ข้อบังคับไม่ชอบด้วยหลักการและเหตุผลเรื่องการพ้นจากตำแหน่งผู้จัดการฯ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2560 จากเดิม "อายุครบ 60 ปี หรือครบกำหนดตามสัญญาจ้าง" แก้เป็น "ครบกำหนดตามสัญญาจ้าง" แสดงว่า อายุเกิน 60 ปี ก็สามารถเป็นผู้จัดการได้หรือแก้เพื่อประโยชน์อะไร 4. ขอให้ตรวจสอบงบประมาณที่สหกรณ์ฯ ตั้งไว้ "รอจ่าย" ในรอบปีตั้งไว้เท่าไรใช้จ่ายอะไรบ้างเหลือเท่าไรต้องบันทึกรายงานสมาชิกฯด้วย และ 5. ขอให้ตรวจสอบการอนุมัติเงินให้กู้แก่สมาชิกผิดระเบียบ/ข้อบังคับของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร หรือไม่อย่างไร ถ้าหากพบการทุจริตคอร์รัปชั่น ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตามระเบียบ กฎหมาย

     โดยมีนายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นายปานทอง สระคูพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และสหกรณ์จังหวัด เป็นผู้รับมอบหนังสือดังกล่าว พร้อมกับได้กล่าว กลับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร ที่มายื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าของการตรวจสอบการบริหารงานของสหกรณ์ครูจังหวัดมุกดาหารครั้งนี้ว่า  ขณะนี้จังหวัดมุกดาหาร ได้แต่งตั้งนายปานทอง สระคูพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เช่น สหกรณ์จังหวัด ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ ได้ดูรายละเอียด ในเนื้อหา วิธีการดำเนินการของสหกรณ์  การให้กู้ยืมที่อ้างว่า ไม่โปร่งใส และหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งดำเนินการไปแล้วกว่า 470 เรื่อง หรือเกินกว่าร้อยละ 80 และคาดว่าจะทราบผลได้ไม่เกินหนึ่งเดือนข้างหน้านี้
    ส่วนการแก้ไขระเบียบ ข้อบังคับ สหกรณ์ ว่าด้วยการได้มาซึ่งประธาน กรรมการ และผู้ตรวจสอบสหกรณ์ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของสมาชิกสหกรณ์ และคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ  โดยขอให้มีการนัดประชุมร่วมกันระหว่าง คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร และตัวแทนสมาชิก เป็นพิเศษ หรือสมัยวิสามัญ หากคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร ไม่เห็นด้วย จะได้มอบหมายให้สหกรณ์จังหวัด ในฐานะนายทะเบียน เป็นผู้นัดหมายให้มีการประชุมดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และพอใจทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหลังจากรับฟังคำชี้แจงของผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารแล้ว สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร พอใจระดับหนึ่งก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยเหตุการณ์ปกติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย….  
                                                        **********************  
อนุศักดิ์  เสาวภา  แสนวิเศษ /  /มุกดาหาร  081-5449094








เทศบาลเมืองหนองคาย ร่วมกับชุมชนวัดธาตุ จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเดือน 6 ประจำปี 2561



เทศบาลเมืองหนองคาย ร่วมกับชุมชนวัดธาตุ จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเดือน 6 ประจำปี 2561
               หนองคาย เทศบาลเมืองหนองคาย ร่วมกับชุมชนวัดธาตุ จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเดือน 6 ประจำปี 2561 เพื่อสืบทอดประเพณีที่มีมาช้านานและเพื่อบูชาองค์หลวงพ่อพระใสและเพื่อสักการะองค์พระธาตุกลางน้ำ (พระธาตุหล้าหนอง) เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของชาวหนองคาย

     
   
     วันที่ 29 เมษายน 2561  ที่ บริเวณหน้าวัดสิริมหากัจจายน์  ชุมชนวัดธาตุ  ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองหนองคาย  จังหวัดหนองคาย  นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย  เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟเดือน 6 ประจำปี 2561  ของชุมชนวัดธาตุเทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมด้วยนายวีระชัยโชค มงคลภูมิรัตน์ ,นายสุเทพ อินทะชัย และนายวินชัย ไวยพัฒน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย คณะผู้บริหาร พนักงานและเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหนองคาย ตลอดจนผู้นำชุมชนเข้าร่วม โดยมี พ.ต.ท.มนตรี พุทธาศรี  ประธานชุมชนวัดธาตุ  กล่าวรายงาน 
      





           บุญบั้งไฟเดือน 6  เป็นงานประเพณีที่สำคัญของชาวภาคอีสานและชาวจังหวัดหนองคาย โดยถือกำหนดเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี และปฎิบัติสืบทอดกันมาช้านาน ตามความเชื่อในการขอฝนจากพญาแถนให้ตกต้องตามฤดูกาล ทำให้เกษตรกรได้ทำไร่ทำนา ส่งผลให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ และที่สำคัญซึ่งจะขาดไม่ได้เลยคือการบูชาองค์หลวงพ่อพระใส ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และเพื่อเป็นการสักการะองค์พระธาตุกลางน้ำ (พระธาตุหล้าหนอง) เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของชาวหนองคาย  ส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป เพื่อความสามัคคีของคนในชุมชน อนุรักษ์องค์ความรู้และภูมิปัญญาของท้องถิ่น   ส่งเสริมการท่องเที่ยวของท้องถิ่นและจังหวัดหนองคาย และเพื่อปลูกฝังเยาวชนคนไทย ให้ตระหนักถึงความสำคัญของประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น





         ปีนี้ได้มีขบวนแห่บั้งไฟเข้าร่วม  จำนวน 7 ขบวน และประกวดขบวนแห่และลวดลายบั้งไฟ จำนวน 6 ขบวน  ซึ่งผลการประกวดรางวัลชนะเลิศของขบวนแห่ลวดลายสวยงามได้แก่ชุมชนยอดแก้ว  ได้รับเงินรางวัล  20,000  บาท  พร้อมถ้วยรางวัล, รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ชุมชนป่าพร้าว  รับเงินรางวัล  15,000 บาท  พร้อมถ้วยรางวัล ,  และรองชนะเลิศอันดับ 2  ได้แก่ ชุมชนป่าหลวง  รับเงินรางวัล  10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ ชุมชนการเคหะ  รับเงินรางวัล  5,000 บาท  ซึ่งภายในบรรยากาศของงานหลังจากเปิดได้ไม่นาน ก็มีฝนตกลงมา นางรำขบวนต่างๆ ได้แสดงออกกันอย่างเต็มที่ภายใต้สายฝนที่ชุ่มฉ่ำ บรรดากองเชียร์หรือผู้ที่มาชมก็ไม่ยอมถอยคงสนุกสนานกับงานประเพณีบั้งไฟกันอย่างคึกคัก
ฤาษีลภ-ข่าว/มนเดช  -ภาพ