หนองคาย คัดแยกสิ่งของบริจาคก่อนนำส่งช่วยพี่น้องลาวที่ประสบภัยเขื่อนแตก

           หนองคาย จิตอาสาเราทำความ ดี ด้วยหัวใจ จังหวัดหนองคาย คัดแยกสิ่งของที่ได้รับการบริจาค ก่อนที่จะนำส่งให้กับเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อช่วยผู้ประสบภัยที่ สปป.ลาว ในวันที่ 1 สิงหาคม 2561

               วันนี้ 31 ก.ค. 61   ที่บริเวณหอประชุมประจักษศิลปาคม ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย  นายจิรศักดิ์  ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจจิตอาสาเราทำความ ดี ด้วยหัวใจ จังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย ทหารจาก กกล.รส.หนองคาย จนท.ปภ.หนองคาย และฝ่ายปกครอง ที่ได้ช่วยกันคัดแยกสิ่งของที่ได้รับการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์เขื่อนเซเปียน ในแขวงอัตตะปือ สปป.ลาว แตก ซึ่งทางจังหวัดได้เปิดศูนย์รับบริจาคฯ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมีทุกภาคส่วนในจังหวัดหนองคาย ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของเป็นจำนวนมาก   โดยทางจังหวัดหนองคายและอุดรธานี จะนำเงินและสิ่งของที่คัดแยกเสร็จแล้ว ไปส่งมอบให้กับเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ในวันที่ 1 สิงหาคม 2561 เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องผู้ที่ประสบภัยจากเขื่อนแตกต่อไป

ฤาษีลภ/มนเดช/ทีมข่าวจังหวัดหนองคาย

หนองคาย เทศบาลเมืองหนองคาย เร่งบรรจุกระสอบทรายรับมือน้ำท่วมเขตเมืองหลังระดับน้ำโขงเพิ่มสูงต่อเนื่อง

             

          หนองคาย เทศบาลเมืองหนองคาย เร่งเจ้าหน้าที่บรรจุกระสอบทราย  1,000 กระสอบ เตรียมรับมือน้ำเอ่อท่วมในตัวเมือง หลังระดับน้ำโขงสูงขึ้นต่อเนื่อง

             วันที่ 31 กรกฏาคม 2561 ที่บริเวณสวนสาธารณหนองบก อำเภอเมืองหนองคาย นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้ระดมเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหนองคาย เร่งบรรจุทรายใส่กระสอบ จำนวน 1,000 กระสอบ เตรียมรับมือน้ำเอ่อเข้าท่วมภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย หลังระดับน้ำโขงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกวัน และให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำโขงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ ในส่วนประตูระบายน้ำซอยฮ่อ เขตเทศบาลเมืองฯขณะนี้ได้นำกระสอบทรายปิดปากท่อระบายน้ำแล้ว  ส่วนประตูระบายน้ำสระแก้ว หากระดับ  11.20  เมตร จะต้องทำการปิดประตู และประตูระบายน้ำวัดธาตุ ระดับน้ำ 11.50 เมตร ก็จะปิดประตูระบายน้ำเช่นกัน เพื่อป้องกันน้ำท่วม ซึ่งทางเทศบาลฯ  ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ หากเกิดมีน้ำเอ่อเข้าท่วม ก็จะเร่งสูบน้ำออกทันที พร้อมประกาศเตือนให้ประชาชนที่ติดริมโขง พร้อมรับมือน้ำท่วมและเก็บข้าวของมีค่า ขึ้นไปไว้บนที่สูง  สำหรับระดับน้ำโขงขณะนี้ อยู่ที่ 10.76 น. (เวลา 10.00 น. ) เพิ่มขึ้นจากเมื่อเช้า (เวลา 07.00 น.) อยู่ที่ 10.55 น.  มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยใกล้กัลตลิ่งแม่น้ำโขงที่ต่ำ ขอให้เตรียมขนสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง และเฝ้าระวังฟังข่าวสารจากส่วนราชการเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

ฤาษีลภ/มนเดช/ทีมข่าวจังหวัดหนองคาย

กาฬสินธุ์ ไม่ทิ้งพี่น้อง สปป.ลาว แม้จะมีอุปสรรค์ ชื่มชมกู้ภัยช่วย 14 ชาวลาวแห่บริจาค

              กาฬสินธุ์ อุปสรรค์ไม่สำคัญ พี่น้องกันต้องมาก่อน ประชาชนจากทุกสารทิศบริจาคสิ่งของ ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม ส่งผ่านสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน “เต็กก่า” จีโหงวเกาะ หรือหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม จุด อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ช่วยเหลือพี่น้อง สปป.ลาว จากเหตุการณ์ เขื่อนเซเปียน เซน้อยแตก พร้อมเผยคลิปภาพการช่วยเหลือชาวลาว ร่วมกับพี่น้องกู้ภัย คนกาฬสินธุ์แห่ชื่นชม แม่จะมีอุปสรรค์ก็ไม่หวั่น

              จากเหตุการเขื่อน เซเปียน เซน้อยแตก เป็นเหตุให้ ประชาชนใน สปป.ลาว ได้รับผลกระทบจากน้ำเขื่อนที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนอย่างรวดเร็ว ปรากฏมีผู้เสียชีวิต และยังคงศูนย์หายจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน “เต็กก่า” จีโหงวเกาะ กาฬสินธุ์  ตั้งอยู่แก่งดอนกลาง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งทีมกู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องชาว สปป.ลาว และมีการเผยแพร่คลิปภาพไปทั่วประเทศ ปรากฏมีพี่น้องประชาชนจากทุกสารทิศ เข้ามาบริจาค ข้าวสาร อาหารแห้ง จำนวนมาก

นายเก่งกาจ บ้งกาวงศ์ นายกสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน “เต็กก่า” จีโหงวเกาะ กาฬสินธุ์ จุดอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า สิ่งของที่ประชาชนนำมาบริจาคเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาว สปป.ลาว ขณะนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุด จะเป็นข้าวสารเหนียว และเครื่องนุ่งห่ม กับอุปกรณ์เครื่องครัวเพื่อใช้ในการยังชีพ เนื่องจากความเสียหายจากเขื่อนแตก ทำให้ทรัพย์สินสูญหายทั้งหมดเนื่องจากไหลไปกับน้ำ ซึ่งในขณะนี้สิ่งที่นำมาบริจาค ได้ทยอยส่งไปยัง สปป.ลาวแล้ว และยังคงเปิดให้มีการบริจาค รวม 3 จุด คือ สำนักงานใหญ่ที่ อำเภอฆ้องชัย ศาลเจ้ากวนอูและที่อำเภอกุฉินารายณ์ และที่บริเวณแห่งนี้ในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์

สำหรับการเข้าบริจาคสิ่งของซึ่งถือเป็นธารน้ำใจของคนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งพี่น้อง สปป.ลาว ประชาชนที่มาบริจาคยังได้ชื่นชมทีมงานกู้ภัย “เต็กก่า” จีโหงวเกาะ กาฬสินธุ์ ซึ่งร่วมกับทีมอาสากู้ภัยหลายแห่งไปช่วยเหลือ 15 ผู้สูญหายในแขวงอัตตะปือ เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านไซดอนโขง ที่ได้รับการเผยแพร่คลิปข่าวนี้ไปทั่วประเทศ และชาวกาฬสินธุ์ขอเป็นกำลังใจให้ทีมกู้ภัยทุกนายด้วย
ยุทธนา  เกียรตืดำเนินงาม  ข่าว/ภาพ

กาฬสินธ์ุ ผู้ว่า ขอให้งดการแชร์ข่าวน้ำท่วมถนนยืนยันไม่เป็นความจริง

               กาฬสินธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอให้ประชาชนงดการแชร์ข้อมูลข่าวน้ำท่วมถนน 10 เส้นทางหลักยืนยันไม่เป็นความจริง แต่ประชาชนที่อยู่พื้นที่เชิงเขา 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.คำม่วง อ.สมเด็จ อ.นาคู และ อำเภอเขาวง ให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก สาเหตุฝนตกไม่หยุดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดพร้อมอพยพ 24 ชั่วโมง

              จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในเขตเทือกเขาภูพาน ด้าน อำเภอสมเด็จ อำเภอนาคู และอำเภอเขาวง ซึ่งน้ำจากลำห้วยยาง ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูพานและลำห้วยลำพะยัง ที่ไหลออกมาจากอ่างเก็บน้ำลำพะยัง ยังคงเอ่อเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของประชาชนแล้วกว่า 2 หมื่นไร่
              ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2561 นายไกรสร กองฉลอด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและตรวจดูปริมาณน้ำตรงอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนและสรุป สถานการณ์น้ำท่วมที่กาฬสินธุ์ เบื้องต้นซึ่งเกิดจากพายุฝนที่ตกต่อเนื่องกัน มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 14 อำเภอ 65 ตำบล 241  หมู่บ้าน พื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วม 21,946 ไร่ ถนนได้รับความเสียหาย 60 สายทาง ซึ่งทุกหน่วยงานกำลังเร่งทำการแก้ไขอยู่ในขณะนี้ แต่เนื่องจากปริมาณน้ำฝนสะสมซึ่งตกลงมาทุกพื้นที่ ปรากฏพื้นที่ราบลุ่ม ด้านลำน้ำปาว และลำน้ำชี เริ่มมีปริมาณน้ำหนุนสูง เกิดน้ำท่วมขังนาขาว ไม่เว้นในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ โดยที่อ่างเก็บน้ำห้วยสีทน ระดับน้ำสูงกว่าปริมาณกักเก็บและมีการระบายลงลำน้ำปาว และเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้นำเครื่องสูบน้ำ มาสูบเพื่อพร่องการระบาย

“แต่สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้อยู่พื้นที่เชิงเขา ราษฎรที่อาศัยติดกับเทือกเขาภูพาน ด้าน อ.คำม่วง อ.สมเด็จ อ.นาคู และอำเภอเขาวง ให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก สาเหตุเนื่องจากฝนยังตกต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงค่ำคืน ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และให้รายงานร่วมกับทางอำเภอเพื่อเตรียมการอพยพตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้”

ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในระยะนี้ มีกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี ปล่อยข่าวปัญหาน้ำท่วมถนนถึง 10 เส้นทาง นั้นไม่เป็นความจริง เพราะในขณะนี้สถานการณ์ไม่มีความรุนแรง ประชาชนควรตรวจสอบข้อมูลงดการแชร์ข้อมูลดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความตื่นตระหนกในระยะนี้

ยุทธนา  เกียรติดำเนินงาม  ข่าว/ภาพ

กาฬสินธุ์ ญาติพี่น้องหัวใจสลายรับศพ ฟอส-สปาย คู่รักเหยื่อโหดวอนเร่งจับคนร้ายดำเนินคดี

            กาฬสินธุ์  ศพของสองคู่รักเหยื่อมือปืนโหดที่เข้าชีจรรย์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ถึงบ้านเกิดท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง แม่เหยื่อสาวยอมรับหัวใจสลายลูกสาวเป็นคนหน้าตาดีและต้องการช่วยหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่มาจบชีวิตแบบนี้เชื่อกระบวนการยุติธรรมมีจริงขอให้จับกุมคนร้ายมาดำนินคดีโดยเร็ว
               จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย หรือฟอส  จริตรัมย์ อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา หรือสปาย  นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี ชาวอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งสองยังเป็นคู่รักกันจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งตำรวจได้จับทีมไล่ล่าคนร้ายที่คาดว่าเป็นเสี่ยใหญ่ที่จังหวัดภูเก็ต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น      

             ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์รายงาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิจากจังหวัดชลบุรี  ได้นำศพของ น.ส.ปวีณา หรือสปาย นาเมือรักษ์  และ นายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ สองคู่รักซึ่งถูกมือปืนยิงอย่างโหดเหี้ยมที่บริเวณลานจอดรถเขาชีจรรย์ ซึ่งโดยศพได้เดินทางมาถึงเมื่อเวลา 23.00 น. และเจ้าหน้าที่ได้นำศพตั้งแยกกัน โดยศพ น.ส.ปวีณา หรือสปาย ตั้งอยู่ หมู่ที่ 1 บ้านนาตาล ตำบลนาตาล ส่วนศพของ นายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ ตั้งอยู่ที่บ้านหมู่ที่ 12 และในช่วงเช้า ชาวบ้านพากันมาทำบุญบำเพ็ญกุศลศพ ท่ามกลางความโศกเศร้า

นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ อายุ 41 ปี กล่าวว่า ปกติลูกสาวเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชำภัฎอุดรธานี และหากมีเวลาว่างหรือช่วงปิดเทอมก็จะไปทำงานตามสถานบริการ โดยเฉพาะที่ จังหวัดภูเก็ต เพราะพี่สาวทำงานที่นั่น โดยลูกตั้งใจว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายครอบครัว และต่อมาก็ไปทำงานที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่สำหรับ “ฟอส” เป็นเพื่อนเรียนหนังสือด้วยกันตั้งแต่เด็กและก็จะไปทำงานด้วยกัน จนเมื่อไปอยู่ที่จังหวัดนครปฐมประมาณ 1 เดือน ก็จะส่งเงินมาช่วยที่บ้านแต่แล้วเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ลูกสาวบอกว่าจะเที่ยว ที่ พัทยา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติไม่ได้คิดอะไร และก็มาได้ยินข่าวว่า ลูกสาวและฟอสเพื่อชายถูกยิงเสียชีวิตที่เข้าชีจรรย์

“ตนรู้สึกเสียใจมากหัวใจสลายหัวอกเป็นแม่ ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร เพราะลูกสาวถือเป็นเสาหลักของครอบครัว และเป็นคนรักพ่อแม่ แต่ต้องมาจบชีวิตแบบนี้ ก็ต้องขอเรียกร้องให้ตำรวจเร่งจบตัวคนร้ายที่ฆ่าลูกมาดำเนินคดีโดยเร็ว”นางวันเพ็ญ กล่าวฯ

ขณะที่บ้านของ นายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ ญาติยังปิดปากเงียบแต่ทุกคนอยู่ในสภาวะความเสียใจและต้องการให้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

เบื้องต้นมีรายงานว่า ศพของ นายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ มีกำหนดจะฌาปนกิจ ในวันที่ 1 สิงหาคม ส่วนศพของ น.ส.ปวีณา หรือสปาย นาเมือรักษ์ จะฌาปนกิจในวันที่ 2 สิงหาคม ที่วัดบ้านนาตาล และมีรายงานว่าการจัดงานยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าคันโท เข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย

ยุทธนา  เกียรติดำเนินงาม  ข่าว/ภาพ

หนองคาย พุทธสานิกชนทั้งไทย-ลาว และนักท่องเที่ยวแห่ร่วมหล่อเทียนพรรษา เชื่อว่าการให้ทานด้วยแสงสว่าง จะมีอานิสงค์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสว

         

          หนองคาย  พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย-ลาว และนักท่องเที่ยวแห่หล่อเทียนพรรษานำไปแสวงบุญถวายสังฆทาน 9 วัด เชื่อว่าการให้ทานด้วยแสงสว่าง จะมีอานิสงค์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสว

          วันที่ 28 ก.ค.61 บรรยากาศช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ที่ วัดโพธิ์ชัย(พระอาราม) อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พุทธศาสนิกชนชาวไทย-ลาวและนักท่องเที่ยวได้เดินทางไปทำบุญ ถวายสังฆทาน และกราบนมัสการองค์หลวงพ่อพระใส พระศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองหนองคายเพื่อขอพร  โดยภายในวัดได้มีพิธีหล่อเทียน ด้วยการตั้งแท่นพิมพ์หล่อต้นเทียน เพื่อให้ผู้ที่มาทำบุญได้ร่วมหล่อเทียนด้วยการนำเทียนแผ่นประจำนักษัตรปีเกิดและแผ่นเทียนขนาดใหญ่ นำไปหลอมและตักไปหล่อในแม่พิมพ์ต้นเทียน ที่จะนำไปถวายในกิจกรรมแสวงบุญถวายสังฆทาน 9 วัด ประจำปี 2561  ถวายวัดที่อยู่ในชนบทห่างไกลหรือวัดที่กำลังบูรณปฏิสังขรณ์หรือกำลังก่อสร้างเสนาสนะทางพระพุทธศาสนาเป็นหลักของจังหวัดหนองคาย ในวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 61 นี้ จำนวน 9 วัด ๆ ละ 2  เล่มใหญ่  โดยชาวพุทธเชื่อว่าการให้ทานด้วยแสงสว่างจะมีอานิสงค์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสว ซึ่งตลอดทั้งวันมีพุทธศาสนิกชนทั้งไทยและลาว และนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมทำบุญ และบูชาวัตถุมงคลหลวงพ่อพระใสกันเป็นจำนวนมาก

ฤาษีลภ/ทีมข่าวจังหวัดหนองคาย

หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัด นำพสกนิกร ร่วมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา รัชกาลที่๑๐

                            หนองคาย  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำพสกนิกร ร่วมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา  66 พรรษา 28ก.ค.61 

               วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ที่ บริเวณหน้าลานพระบรมราชาอนุสาวรีย์ ร.๕ หน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย นายรณชัย  จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28ก.ค.61 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูล รัชกาลที่ 10 โดยร่วมกับหน่วยงานราชการ และประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลกับถวายพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในราชการที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา ด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยมีส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก