หนองคาย บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้ง
ส.ส.ที่หนองคาย ผลอย่างไม่เป็นทางการเบื้องต้น พรรคเพื่อไทย และพลังประชารัฐ
มีคะแนนเบียดสูสี แต่ยังมีบัตรเสียจากการกาหมายเลขพรรคที่ถูกตัดสิทธิ
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62 หลังจากที่มีการปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง
ในแต่ละหน่วยเลือกตั้งในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งของแต่ละหน่วย
ในเขตเลือกตั้งทั้ง 3 เขต ได้ทำการตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะเปิดหีบบัตรทำการนับคะแนน
ซึ่งมีประชาชนมาติดตามผลการนับคะแนนอยู่บ้างแต่ไม่มาก เช่นเดียวกับสถานที่ข้างที่ว่าการอำเภอเมืองหนองคาย
ซึ่งใช้เป็นสถานที่นับคะแนนบัตรเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า นอกเขตจังหวัด
และในเขตจังหวัดหนองคาย ก็ได้เริ่มนับคะแนนเช่นเดียวกัน
ซึ่งการนับคะแนนไม่เป็นทางการ
คะแนนของผู้สมัครพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ เบียดทำคะแนนสูสีกันมาก
ส่วนพรรคอนาคตใหม่ก็ได้คะแนนมากกว่าพรรคการเมืองเก่าอีกหลายพรรค
นอกจากนี้ยังพบว่ามีบัตรเสีย เนื่องจาก
มีการกากบาทในช่องพรรคที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง
และกากบาททับชื่อพรรคแทนการกากบาทในช่องที่ให้กา
ส่วนช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนนก็มีบ้างเช่นกัน ภาพรวมการเลือกตั้ง
ส.ส.ของจังหวัดหนองคาย ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง
เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนผู้ที่ได้คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ เขต 1 อันดับที่ 1 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ พรรคเพื่อไทย จำนวน 33,463 คะแนน
อันดับที่ 2 นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ พรรคพลังประชารัฐ จำนวน
26,112 คะแนน และอันดับที่ 3 นายณัฐพงศ์
ชนะพันธ์ พรรคอนาคตใหม่ จำนวน 14,539 คะแนน เขต 2 อันดับที่ 1 นางสาวชนก จันทาทอง พรรคเพื่อไทย จำนวน 29,002
คะแนน อันดับที่ 2 นายพัทยา บริจาค
พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 13,481 คะแนน
และอันดับที่ 3 นายสรร สุนทรธนากุล พรรคเสรีรวมไทย จำนวน 13,407
คะแนน เขต 3 อันดับที่ 1 นายเอกธนัช อินทร์รอด พรรคเพื่อไทย จำนวน 42,230 คะแนน
อันดับที่ 2 นางตุ้มทรัพย์ พรหมหลง พรรคอนาคตใหม่จำนวน 13,256 คะแนน และอันดับที่ 3
นายสุนทร กรมธรรมา พรรคพลังประชารัฐ
จำนวน 12,262 คะแนน
จังหวัดหนองคาแบ่งการเลือกตั้งออกเป็น
3 เขต 778 หน่วย ประชากร 495,583
คนผู้มีสิทธิ์ 406,174 คน การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้
ทำให้เห็นแล้วว่าพรรคการเมืองเก่าแก่หลายพรรคที่มีมายาวนานกับการเมืองไทยต้องกลับไปนั่งคิดทบทวนบทบาทกันใหม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ทำไมต้องหลุดจนเหลียวหน้าแลหลังไม่เห็น
ทำให้นักการเมืองหรือนักเลือกตั้งไทยบางท่านได้เห็นแล้วและเชื่อว่าประชาชนคนไทยกินข้าวไม่ได้โง่
แต่ก็ต้องยอมรับไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร
เนื่องจากทุกคนที่ได้รับการเลือกตั้งเข้าไปล้วนแล้วแต่เข้าไปด้วยขบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ของการออกไปใช้สิทธิ์เลือกผู้แทนของประชาชนจริงๆ
เราต้องมารอดูอีกครั้งหลังจากการเลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้วประเทศไทยเราจะไปอย่างไร
เมื่อประชาชนส่วนมากไว้วางใจเลือกท่านเหล่านั้นเป็นผู้แทนเข้าไปบริหารประเทศ 