วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560

หนองคาย งานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล "Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต"


หนองคาย งานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล "Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต"
จังหวัดหนองคาย ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดหนองคาย จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) ภายใต้แนวคิด "Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต"

          วันที่ 9 ธันวาคม 2560  ที่ หอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดหนองคาย จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) ภายใต้แนวคิด "Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต" โดยมี นายรณชัย  จิตรวิเศษ  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงานเพื่อแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำทางการเมืองที่ร่วมกับภาคีทุกภาคส่วนในการสร้างความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างต่อเนื่อง และปลุกกระแสสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต มุ่งยกระดับค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต"  โดยมีนายจิรศักดิ์  ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ,นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ในจังหวัดหนองคายเข้าร่วมงานจำนวนมาก


           นายสุรศักดิ์  โยธา  พนักงานไต่สวนเชี่ยวชาญ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีถือเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ได้ก่อกำเนิดขึ้นหลังจากที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ (UN) มีมติเห็นชอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 (UNCAC) อย่างเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546 จากนั้นประเทศภาคีสมาชิก UN 191 ประเทศ รวมทั้งไทยได้เข้าร่วม ลงนามในอนุสัญญาฯ ระหว่างวันที่ 9 - 11 ธันวาคม 2546 ณ ประเทศเม็กซิโก จึงประกาศให้วันที่ 9 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (International Anti-Corruption Day) สำหรับปีนี้ รัฐบาลไทย ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม  จึงได้กำหนดจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) วันที่ 9 ธันวาคม 2560 พร้อมกันทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นับเป็นมิติใหม่ในการสร้างเจตจำนงทางการเมืองที่รัฐบาลชุดปัจจุบันให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็นวาระเร่งด่วนและให้เป็นวาระแห่งชาติ ด้วยการใช้กลไกประสานความร่วมมือกับภาครัฐ ประกอบไปด้วยฝ่ายประจำและฝ่ายการเมือง ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม กลไกทางศาสนาและการศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่ยั่งยืน ตามแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม ระยะที่ 3 อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ค่า CPI สูงขึ้นด้วย

พันธลภ  แสงทอง  หนองคาย ภาพ  /ข่าว  











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น