วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หนองคาย ตรวจยึดไม้หวงห้ามหลังขบวนการมอดไม้ลักลอบตัดในป่าสงวนแห่งชาติ


หนองคาย  ทหารร่วมกับป่าไม้ฝ่ายปกครองสนธิกำลังตรวจยึดไม้ชิงชัง ในพื้นที่ป่าชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หลังมีขบวนการมอดไม้ลักลอบเข้าตัดและแปรรูป 
วันที่ 31 ต.ค. 61 นายเอกชัย  เทพกิจ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.๑(สังคม) สนธิกำลัง ทหาร กกล.รส.จังหวัดหนองคาย ,จนท.โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทอนอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดหนองคาย ,ฝ่ายปกครอง,อาสาพิทักษ์ป่าบ้านห้วยหินขาว และผู้นำชุมชน,ชรบ.บ้านวังน้ำมอก  เข้าตรวจยึดไม้ชิงชัน ที่บริเวณภูมะตูมป่าชุมชนบ้านวังน้ำมอก  หมู่ 5 ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย  ซึ่งเป็นป่าชุมชนที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพานพร้าว-ป่าแก้งไก่  และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ  หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีขบวนการมอดไม้ลักลอบเข้าไปตัดไม้ชิงชัน จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ ภายใต้การอำนวยการของ นายรณชัย  จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย,นายวรรณพล  ต่อพล นอภ.ศรีเชียงใหม่ รักษาราชการปลัดจังหวัดหนองคาย ,พ.อ.ปิยะพณห์  ฐิติวัฒนานนท์ ผบ.กกล.รส.จังหวัดหนองคาย 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ต.ค.61ที่ผ่านมา นายเอกชัย  เทพกิจ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.๑(สังคม) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบขบวนการมอดไม้ลักลอบเข้าตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมสนธิกำลังหน่วยงานดังกล่าวเขาตรวจสอบ พบไม้ชิงชัน จำนวน 4 เหลี่ยม/ท่อน ปริมาตร 0.330 ลบ.ม. เพื่อแปรรูปเตรียมขนย้ายออกจากพื้นที่  ส่วนมอดไม้หลบหนีไปได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียง พบไม้ชิงชันถูกโค่นและตัดจำนวน จำนวน 6 ท่อน และแปรรูปจนวน 4 ท่อนเหลี่ยม ปริมาตร 1.143 ลบ.ม. ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะถอนกำลังออกมาพื้นที่ ก็ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ายังมีไม้อีกจำนวนหนึ่งในพื้นที่ ภูด่านกบ ซึ่งเป็นป่าชุมชนบ้านห้วยไฮ หมู่ 11 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างบ้านวังน้ำหมอก ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพานพร้าว – ป่าแก้งไก่  เจ้าหน้าที่จึงได้แบ่งกำลังเข้าตรวจสอบ พบไม้ชิงชันถูกตัดสภาพใหม่ จำนวน 5 ท่อน ปริมาตร 0.924 ลบ.ม. ส่วนมอดไม้หลบหนีไปได้ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง   รวมปริมาตรไม้ 2.397 ลบ.ม. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดและนำไม้มาเก็บรักษาไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.๑(สังคม)  และยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่บางคนในพื้นที่เข้ามาขอเคลียร์แต่ไม่เป็นผล 
นายเอกชัย  เทพกิจ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.๑(สังคม) กล่าวว่า การตรวจยึดครั้งนี้ เป็นการกระทำผิดตาม  พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.48 ฐานแปรรูปไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่, พ.ร.บ. 2507 ม.14 ฐานทำไม้หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามสืบสวนหาขบวนการมอดไม้ดังกล่าวตลอดจนผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ฤาษีลภ/อภิชาติ/หนองคาย
















หนองคาย ไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะ ภาคประชาชนโพนสว่างรวมตัวรุกอีกครั้ง หวังพึงรัฐ เดินหน้ายื่นหนังสือ 3 หน่วยงานไฟฟ้าขยะ


                           
              
  หนองคาย เครือข่ายภาคประชาชนโพนสว่างรวมตัวรุกอีกครั้ง หวังพึงรัฐเดินหน้ายื่นหนังสือ 3 หน่วยงาน กรณีสงสัยความไม่โปร่งใสในโครงการก่อสร้าง โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอยชุมชน และข้อกังวลต่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 
            วันนี้  (30 ตุลาคม 2561) ที่บริเวณมุขด้านหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย  นายกี๋  สุวรรณมาลี ประธานเครือข่ายภาคประชาชนตำบลโพนสว่าง  พร้อมด้วย นางธัญญา ตันตระกูล ที่ปรึกษาฯ , นางณัฐลัดดา ศิริเพชร และนางเบญจวรรณ โชฮะดะ  แกนนำร่วม  พร้อมด้วยชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่บ้านโพนสว่างจำนวนหนึ่งสวมเสื้อสีขาวด้านหลังเขียน ไม่เอา..โรงไฟฟ้าขยะ ได้เดินทางถือป้ายมีข้อความไม่เอาโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ มายื่นหนังสือข้อสงสัยและข้อกังวลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอยชุมชน ที่ดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่บ้านป่าตอง ตำบลโพนสว่าง อำเภอเมืองหนองคาย ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย โดยมี นายณัฐวัสส์   วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  เป็นตัวแทนรับหนังสือ  จากนั้นได้เชิญตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนตำบลโพนสว่าง เข้าร่วมประชุมหารือ ที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองคาย เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขร่วมกัน จากนั้นได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ โยธาและผังเมืองหนองคาย และ อุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย เพื่อให้พิจารณาทบทวนตามข้อสงสัยและข้อกังวลเกี่ยวกับโครงการ
               ซึ่งที่ประชุมแกนนำเครือข่ายฯ ได้เสนอแนวทางในการยุติข้อสงสัยและข้อกังวล ขอให้มีการทบทวนการดำเนินการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ขอให้แสดงข้อมูลพร้อมรายละเอียดสัญญาการร่วมทุน รวมทั้งข้อตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ให้เปิดเวทีสาธารณะสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับคนในพื้นที่ตำบลโพนสว่าง  จัดเวทีประชาคม  10 หมู่บ้าน  ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะในระยะยาว แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามและกำกับดูแลโครงการ และจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ตำบลโพนสว่างให้เป็นตำบลน่าอยู่ เนื่องจากที่ผ่านมาเชื่อว่าไม่มีความโปร่งไส เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ถูกปิดหูปิดตา ไม่ได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และเป็นปัญหายืดเยื้อมานาน
            ผลการประชุม พิจารณาให้ดำเนินการตามหนังสือข้อสงสัยและข้อกังวลของเครือข่ายภาคประชาชน พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้าง และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ 
             สำหรับ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะมูลฝอยชุมชน ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8.0 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ 999 หมู่ที่ 8 ตำบลโพนสว่าง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย  เป็นโครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบครบวงจร จังหวัดหนองคาย ผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้ขยะมูลฝอยเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า งบประมาณลงทุนโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท












วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เทศบาลเมืองหนองคายรับรางวัล อปท.ดีเด่นด้านสิ่งแวดล้อม


เทศบาลเมืองหนองคายรับรางวัล อปท.ดีเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
หนองคาย  มท.1 มอบโล่รางวัลให้เทศบาลเมืองหนองคาย  ซึ่งเป็น 1 ใน 192 อปท. ที่มีผลปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2561
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2561 ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล  พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  มอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2561 จำนวน 192 รางวัล   ซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้จัดขึ้น โดยนายวีระชัยโชค มงคลภูมิรัตน์  รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้เข้าเป็นตัวแทนเทศบาลเมืองหนองคาย เข้ารับรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ด้านสิ่งแวดล้อม (ด้านการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย)  โครงการกองทุนสงเคราะห์จากขยะรีไซเคิล

สำหรับการมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2561 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งและมีศักยภาพในการจัดทำบริการสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่    เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น   จึงได้คัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น  9 ด้าน ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลมูลฝอยและสิ่งแวดล้อม ด้านส่งเสริมศาสนาศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด้านส่งเสริมการใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการสร้างอาชีพ ด้านนวัตกรรมการบริหารจัดการและการให้บริการประชาชน และด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต  จำนวน 192 รางวัล .ให้กับ  192 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้กลับไปพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง พร้อมกับมุ่งมั่น บำบัดทุกข์ บำรุงสุขได้อย่างเข้มแข็ง  ให้ประชาชนได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพต่อไป






รมต.แรงงานติดตามงาน 5 เสือกระทรวงแรงงานที่หนองคาย


 
รมต.แรงงานติดตามงาน 5 เสือกระทรวงแรงงานที่หนองคาย
หนองคาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน   11  นโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญของกระทรวงแรงงาน ประจำปีงบประมาณ  2561   และมอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงาน แก่ 5 เสือกระทรวงแรงงานที่จังหวัดหนองคาย

                วันที่ 25 ตุลาคม 2561 ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย  พลตำรวจเอกอดุลย์  แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน   11  นโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญของกระทรวงแรงงาน ประจำปีงบประมาณ  2561   และมอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงาน แก่หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1 ประกอบด้วย จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู และอุดรธานี โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ,นางวรรณกานต์ ขาวลาภ แรงงานจังหวัดหนองคาย  นายวิสูตร  จ้อนเมือง จัดหางานจังหวัดหนองคาย  นางสาวประภัสสร  ประจันตะเสน ผู้อำนวยสำนังกานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดหนองคาย นายธนพงศ์  อรชร สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดหนองคาย ละนางสาวรังสิมา  ปรีชาชาติ ประกันสังคมจังหวัดหนองคาย  พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน จาก จังหวัด บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู และอุดรธานี 


                  นางวรรณกานต์  ขาวลาภ  แรงงานจังหวัดหนองคาย ได้รายงานผลการดำเนินงานนโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญของกระทรวงแรงงาน ประจำปีงบประมาณ  2561  มี 11 นโยบายเร่งด่วน ประกอบด้วย  การเร่งรัดจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว   การผลักดันและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์  การแก้ไขปัญหาการหลอกลวงแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ  การส่งเสริมการรับคนพิการเข้าทำงาน  การส่งเสริมให้มีการจ้างงานผู้สูงอายุมากขึ้น  การขับเคลื่อนนโยบาย Safety Thailand  การผลัดดันให้แรงงานนอกระบบเข้าถึงระบบหลักประกันทางสังคม  การยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน  การเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ   การผลักดันการสร้างหลักประกันทางสังคมที่เป็นธรรมและเท่าเทียม  และการยกระดับระบบโทรศัพท์สายด่วน 1506



                จากนั้น พลตำรวจเอกอดุลย์  แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบรางวัลให้กับอาสาสมัครแรงงานดีเด่นด้านภารกิจงานประกันสังคม ให้กับ นางทองลา  โคตะวัน  อสร.ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเมืองหนองคาย   นายไวพจน์  แพงโคตร อสร.ตำบลบ้านต้อน อำเภอรัตนวาปี   นายประยูร  หาสาง อสร.ตำบลคอกช้าง อำเภอสระใคร   นายยอด  หอมประเสริฐ  อสร.ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ และนางสาวพรประภา   วรรณเสน  อสร.ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอท่าบ่อ  นอกจากนั้น ยังได้มอบเงินทดแทนให้กับลูกจ้างละผู้มีสิทธิ์รับเงินทดแทน ให้กับ นางสาวอุไรภรณ์  วิเศษสุนทร    นายกิตติชัย  ขันธเนตร   นายพิชัย  วรรณพฤกษ์  และนางสุปราณี   สีลือ   ต่อจากนั้นคณะได้เยี่ยมชมผู้ประกอบอาชีพอิสระตามโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อย ที่ละทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อสร้าง สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้และความมั่นคงในชีวิต