วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

หนองคาย- สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย จัดกิจกกรรมคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ ฯ

         
           จังหวัดหนองคาย- โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย จัดกิจกกรรมคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
           เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 63 ที่ โรงเรียนราษฎร์นุเคราะห์ ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับเกษตรกรดีเด่นในสาขาต่างๆ และยังได้มอบพันธุ์พืชและพันธุ์ปลาให้กับผู้นำหมู่บ้านเพื่อเป็นต้นทุนการผลิต โดยมี นางสำเนียง ขันพิมล เกษตรจังหวัดหนองคาย ได้นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน พร้อมด้วยพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ตำบลพระธาตุบังพวนและใกล้เคียง เข้าร่วมงาน
             นางสำเนียง ขันพิมล เกษตรจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  เพื่อให้บริการแก่เกษตรกร ในการแก้ปัญหาการผลิตด้านการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว อย่างทั่วถึง และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกัน ระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกร ให้สามารถถ่ายทอดการผลิตทางการเกษตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
          โดยทั้งนี้ในพระราชวโรกาสอันเป็นมิ่งมงคลนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดโครงการคลินิก เกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้กําหนดจัดงานทุกจังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 22-31 กรกฎาคม 2563 กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การลงนามถวายพระพร นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการผลงานเด่นของสำนักงานเกษตรจังหวัด และเปิดให้บริการคลินิกเกษตร เคลื่อนที่ จํานวน 27 คลินิก อาทิ คลีนิกดิน คลีนิกพืช คลีนิกข้าว คลีนิกประมง คลีนิกสหกรณ์ คลีนิกกฎหมาย(สปก.) คลีนิกชลประทาน คลีนิกหม่อนไหม คลีนิกการยาง  คลีนิกศูนย์วิเคราะห์ต่างๆ ในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร  และการให้บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด, สำนักงานแรงงานจังหวัด, การจัดแสดงเกษตรกร ต้นแบบยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ และการจําหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์  มีเกษตรกรในพื้นที่ตําบลพระธาตุบังพวนและตําบลใกล้เคียงมาร่วมงาน และเข้ารับบริการทางการเกษตร กว่า 300 คน:ฤาษีลภ-อภิชาติ//จ.หนองคาย





มุกดาหาร -ทหารพราน จับกุมชายวัยกลางคนพร้อมยาบ้า 1919 เม็ด

มุกดาหาร-  ทหารพรานที่ 2107  จับกุมชายวัยกลางคน พร้อมยาบ้า 1,919 เม็ด และบุหรี่ต่างประเทศจำนวน 2 ห่อลักลอบนำเข้ามาจาก สปป.ลาว
          เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 63 ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.สวราชย์ แสงผล ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พันเอก พิทักษ์พล ชูศรี ผบ.กรมทหารพรานที่ 22  ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านนาแล หมู่ 7  ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร้อยทหารพรานที่ 2107 นำกำลังพลซุ่มตรวจตามบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายยาเสพติด และการกระทำความผิดเงื่อนไขตามแนวชายแดน
          กระทั่งบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พิกัด VD 838176  เจ้าหน้าที่ชุดซุ่ม ตรวจพบเรือกีบติดเครื่องยนต์แล่นมาจาก ฝั่ง สปป.ลาว ตรงเข้ามายังฝั่งไทย ซึ่งห่างจากชุดซุ่ม ประมาน 50 เมตร จากนั้นได้สังเกตเห็นชายวัยกลางคน ลงจากเรือเดินขึ้นมายังริมฝั่ง ชุดซุ่มจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น แต่ชายดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้แสดงอาการตื่นตกใจกลัว โยนวัตถุบางอย่างทิ้ง และพยายามหลบหนี
           เจ้าหน้าจึงได้ไล่ติดตามและสามารถควบคุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อ นายสงัด โคชขึง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 7 ตำบลนาสีนวน อำเภอเมอง จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ได้ตรวจดูบริเวณโดยรอบพบบุหรี่ต่างประเทศ ยี่ห้อ เพ็ด  จำนวน 2 ห่อ และยาบ้า จำนวน 1 มัด รวม 1,919 เม็ด พันด้วยพลาสติกใสห่อหุ้มด้วยกระดาษสาสีขาว บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกสีดำ
          จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร มาร่วมตรวจยึดจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป..
                                                     ********************
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร  081-5449094


มุกดาหาร- อบจ เปิดฝายชะลอน้ำและปลูกต้นไม้หญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ

                           
            มุกดาหาร – องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร เปิดฝายชะลอน้ำและปลูกต้นไม้หญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติประจำปี 2563
            เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563  นายวิริยะ  ทองผา  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารร่วมกับ นายประพันธ์  คนหาญ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตัวแทนนายอำเภอหนองสูง หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนยาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนบ้านงิ้ว ร่วมเปิดฝายชะลอน้ำ พร้อมเปิดโครงการปลูกต้นไม้/หญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2563 “ ร่วมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน ” สืบสานสู่ 100 ล้านต้น ณ บ้านงิ้ว หมู่ที่ 4 ต.หนองสูง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
          ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ที่เป็นปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิตของมนุษย์นั้น นำมาใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก รวมทั้งพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายการขยายพื้นที่เพื่อการกสิกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและพังทลายของหน้าดิน ดังนั้นโครงการปลูกต้นไม้ หญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2563 “ ร่วมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน ” สืบสานสู่ 100 ล้านต้น จึงเป็นกิจกรรมโครงการหนึ่งที่ช่วยปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรป่าไม้ และป้องกันการพังทลายของดิน ตามแนวทางศาสตร์พระราชา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9  และเพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการดูแลและรักษาป่าไม้ อีกทั้งเนื่องในมงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 และเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ประจำปี 2563
            นายวิริยะ  ทองผา  กล่าวว่า โครงการปลูกต้นไม้/หญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2563 “ร่วมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน” สืบสานสู่ 100 ล้านต้น บ้านงิ้ว หมู่ที่ 4 ต.หนองสูง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคน้ำ เพื่อการเกษตรและการปศุสัตว์ และได้ขอความช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วนผ่านทางผู้นำท้องถิ่นและองค์การบริหารส่วนตำบลโนนยางมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร กระผมเห็นความสำคัญของปัญหาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำของราษฎรในพื้นที่ จึงได้อนุมัติให้เข้ามาดำเนินการก่อสร้างทำฝายชะลอน้ำแห่งนี้เป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่มีน้ำใช้เพื่ออุปโภค และบริโภค  เพื่อการเกษตรและการปศุสัตว์ รวมทั้งให้สามารถใช้หลังฝายเป็นเส้นทางคมนาคมสัญจรขนส่งวัสดุการเกษตรในพื้นที่ได้อีกด้วย..
                                                        *******************
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร  081-5449094










มุกดาหาร -จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ

       
       มุกดาหาร - โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร ได้จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
           เมื่อวันที่  31 07 63 ที่โรงเรียนร่มเกล้าพิทยาสรรค์ ตําบลร่มเกล้า อําเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร นายสุวิทย์ จันทร์หวร (จัน-หะ-วอน) รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี นายวันชัย ประยงค์หอม เกษตรจังหวัดมุกดาหาร ได้นำข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ตำบลร่มเกล้า และใกล้เคียง เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
           นายวันชัย ประยงค์หอม เกษตรจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า  การจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการ แก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรให้มีความรวดเร็ว อย่างทั่วถึง และสอดคล้องกับความต้องการ ของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมแล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ให้บริการเกษตรกร ณ จุดเดียว เพื่อส่งเสริมและ พัฒนาให้เกษตรกรสามารถทําการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
         โดยทั้งนี้ในพระราชวโรกาสอันเป็นมิ่งมงคลนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดทําโครงการคลินิก เกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว ได้กําหนดจัดงานทุกจังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 22-31 กรกฎาคม 2563 และจังหวัดมุกดาหาร ได้กําหนดจัดงานขึ้นในวันนี้ สําหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การลงนามถวายพระพร นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การบริการคลินิกเกษตร เคลื่อนที่ จํานวน 15 คลินิก การบริการตรวจวิเคราะห์สารพิษในเลือด การจัดแสดงเกษตรกร ต้นแบบด้านการเกษตรดีเด่น การจําหน่าย ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ มีเกษตรกรในพื้นที่ตําบลร่มเกล้า และตําบลใกล้เคียงในพื้นที่ของอําเภอเมืองมุกดาหาร มาร่วมงานและเข้ารับบริการทางการเกษตรกร กว่า 300 คน
          สำหรับ จังหวัดมุกดาหาร มีพืชเศรษฐกิจที่สําคัญ ได้แก่ ข้าว อ้อย มันสําปะหลัง และยางพารา สัตว์เศรษฐกิจ เช่น โค สุกร และสัตว์น้ำจืด โดยทั้งนี้ทางจังหวัดมุกดาหาร ได้บูรณาการร่วมกันกับทุกกระทรวงเพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่างๆของ รัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ นโยบาย ของรัฐบาล
                                            *************************** 
อนุศักดิ์  - เสาวภา  แสนวิเศษ มุกดาหาร 081-5449094







รัฐสภา-โควิด-19 พ่นพิษกระทบนักเตะไทย กมธ.กีฬา หากไม่วางแผนตกงานอื้อ

           เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สผ.)408 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ประชุมคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 21 มีคณะกรรมาธิการกีฬา,ที่ปรึกษาฯ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน การพิจารณาครั้งนี้เป็นการศึกษาปัญหาการถ่ายทอดฟุตบอลไทยลีก โดย นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล โฆษกคณะกรรมาธิการกีฬาฯ ได้เสนอปัญหานี้ จากปัญหาโรคไวรัสโคโรน่า หรือโควิด 2019 ซึ่งกระทบต่อการกีฬาฟุตบอลไทย กมธ.กีฬาฯ จึงได้เชิญผู้เกี่ยวข้อง 3 ส่วน ประกอบด้วย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ซึ่งได้มอบให้ นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย และ นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ ผู้อำนวยการด้านรัฐกิจสัมพันธ์ ส่วนการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย , ขณะที่ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไม่ได้มาและไม่ได้มอบหมายผู้ใดเข้าร่วมประชุม แต่ได้ตอบเป็นเอกสารว่า การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกฯ มิได้มีปัญหาใดๆ และในห้วงเวลานี้ ยังไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ เนื่องจากกำลังรอข้อสรุปของคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านการกีฬาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
การชี้แจงครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่ง กมธ.กีฬา แสดงความเป็นห่วงกีฬาฟุตบอลของประเทศไทย เพราะสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยไม่สามารถจัดการแข่งฟุตบอลลีกไทยได้ ซึ่งเป็นการผิดสัญญากับ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีสัญญาในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ 1,200 ล้านบาท ให้กับทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่จะนำไปจ่ายบำรุงนักกีฬาและบุคลากรในสโมสรฯ และได้มีการเปรียบเทียบความพยามในการประคองกีฬาอื่นที่มีสัญญากับบริษัททรูฯ แต่ก็ยังสามารถผ่านวิกฤติและจัดให้มีการถ่ายทอดสดผ่านไปได้
นายองอาจ  ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2563 ชัดเจนว่ายอดเงินที่ทางบริษัททรูฯ ต้องจ่ายในสัญญาปีสุดท้ายให้กับ สมาคมกีฬาฟุตบอลประเทศไทย จะอยู่ราวๆ 1,200 ล้านบาท แต่ติดปัญหาโควิด-19 ตลอดระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลเกิดขึ้น และจะสิ้นสุดสัญญาถ่ายทอดสดไทยลีกในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เมื่อไม่มีการแข่งขันในด้านสัญญาทางบริษัททรูฯ ก็ไม่สามารถที่จะจ่ายเงินให้กับสมาคมฟุตบอลฯ ได้
“โดยเฉพาะเงินที่ทางบริษัททรูฯต้องชำระ นั่นหมายถึง การบำรุงดูแลนักกีฬาและสโมสรแต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ทางบริษัททรูฯเอง ก็ได้รับผลกระทบจาก โรคโควิด19เช่นกัน อีกทั้งสัญญาครั้งนี้คืองวดสุดท้ายหมายถึงว่าเมื่อสิ้นสุดสัญญา บริษัทที่รับสัมปทานต่อไปก็ไม่ใช่บริษัททรูฯ เมื่อรู้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีโรคไวรัสนี้ทางบริษัทฯก็ได้จัดฝังรายการใหม่รองรับเพื่อเป็นการเปิดพื้นที่ทางธุรกิจเช่นกัน หากทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯสามารถจัดการแข่งขันให้ได้ ทางบริษัททรูฯ ก็พร้อมที่จะจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้อย่างเต็มที่ จึงขอให้เข้าใจ” นายองอาจกล่าวในที่สุด
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กล่าวว่า การเข้าชี้แจงครั้งนี้เป็นการให้ข้อมูลซึ่งไม่ได้รับมอบหมายโดยตรงจาก นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยหรือ ประธานบริษัทไทยพีเมียร์ลีก จำกัด ที่มี พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เป็นนายกสมาคมฯและเป็นประธานบริษัทฯ เนื่องจากติดภารกิจ และที่มาให้ข้อมูลก็พูดในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เรื่องนี้เท่าที่ทราบปัญหาทุกอย่างเกิดจากโรคไวรัสโควิด19 เพราะก่อนหน้านี้ สัญญาที่ได้ทำกับบริษัททรูฯ ทางบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกฯ ก็ได้รับเงินมาโดยตลอด ซึ่งได้เซ็นสัญญาไว้ในช่วงปลายปี 2015 มีระยะเวลา 4 ปี มูลค่า 4,200 ล้านบาท แต่เมื่อเกิดโรคโควิด19 ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ อีกทั้งนักเตะส่วนใหญ่ตามสโมสรต่างๆ ก็เป็นชาวต่างชาติที่ได้เดินทางกลับบ้านหลังมีการแพร่ระบาดและจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถกลับมาได้จึงทำให้เตรียมทีมไม่ทัน อีกทั้งการเตรียมทีมเอาเข้าจริงก็ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน ในกรณีนี้ทราบว่า จะสามารถกลับเข้ามาเตะได้ภายในวันที่ 12 กันยายนนี้ ซึ่งก็จะสิ้นสุดสัญญาและไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร เพราะในศึกไทยลีกนี้พึ่งจัดไปได้ 4 นัดและเหลืออยู่ 26 นัด ซึ่งก็คงจะได้รับเงินสนับสนุนเท่าที่ทำได้
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาผลกระทบโควิด19 เบื้องต้นหลักเกณฑ์การช่วยเหลือนักกีฬาอาชีพใน 13 ชนิดกีฬาเหมือนกัน ซึ่งฟุตบอลเป็นหนึ่งในนั้น และที่ผ่านมาไม่มีโรคโควิด19 กกท. ได้สนับสนุนกีฬาฟุตบอลไป 16 ล้านบาท แต่เมื่อมีสปอนเซอร์ กกท. ก็ไม่ได้เข้าสนับสนุน ต่อมาเมื่อมีปัญหาโรคโควิด-19 สมาคมฟุตบอลฯ ได้มีหนังสือขอสนับสนุนใน T1 และ T2 กกท. ได้ทำการสนับสนุนในเรื่องเงินรางวัล ไทยลีก 1 จำนวน 17 ล้านบาทและ ไทยลีก 2 จำนวน 9 ล้านบาทเศษและถ้ารวมถึงไทยลีก3 จะสนับสนุนประมาณ 44 ล้านบาท นอกจากนี้ในการสนับสนุนอื่นไม่ว่าจะเป็นเงินรางวัล และผู้ตัดสินฯใน 3 ระดับจะมีอัตราให้การสนับสนุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ 2556 อยู่แล้ว
ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเพราะชัดเจนว่าทางบริษัททรูฯนั้นได้รับผลกระทบจากโควิด19 เช่นกัน แต่ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดสดกีฬาฟุตบอลไทยลีกและเมื่อครบก็พร้อมที่จะชำระเงินที่เหลือให้เต็มที่ แต่ทางบริษัทพรีเมียร์ลีกฯ ไม่สามารถจัดการแข่งขันให้ได้ กรณีนี้คงเป็นบทเรียนที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขเพื่อประคองฟุตบอลไทย จึงขอให้สมาคมฟุตบอลฯ กลับไปทบทวนการวางแผน  เพราะในอนาคตผู้สนับสนุนไทยลีกรายใหม่อาจจะยกเลิกการสนับสนุนได้อีก และเชื่อว่าสมาคมฟุตบอลและสโมสรแต่ละจังหวัดซึ่งเคยมีผู้สนับสนุนฟุตบอล ก็ยังมีข่าวการยกเลิกสปอนเซอร์เช่นกัน จึงฝากสมาคมฟุตบอลฯ ไปศึกษาแนวทางการเซ็นสัญญาลิขสิทธิ์อย่างไร เพื่อให้นักกีฬาฟุตบอลได้ประโยชน์สูงสุด
“ขณะนี้สมาคมฟุตบอลฯควรจะหาวิธีให้มีการจัดการแข่งขัน และควรที่จะถามสโมสรว่าพร้อมเตะหรือไม่เพื่อที่จะไม่ผิดสัญญากับทาง “บริษัททรู” ซึ่งจะเป็นที่มาของปัญหาขาดงบช่วยเหลือ และขอให้ ทาง กกท.หาวิธีช่วยเหลือสนับสนุนกีฬาฟุตบอลลีกให้สามารถเดินหน้าต่อไป” ป.กมธ.กีฬา กล่าวในที่สุด://ยุทธนา  เกียรติดำเนินงาม






รัฐสภา-“เอกการ” ตั้งทีม อนุกีฬาแก้โควิด ศึกษา หาแหล่งทุนแนะนักกีฬาปรับตัวแก้ตกงาน

รัฐสภา-“เอกการ” ตั้งทีม อนุกีฬาแก้โควิด ศึกษาหาแหล่งทุนแนะนักกีฬาปรับตัวแก้ตกงาน
            เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สผ.)305 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ส.ส.ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานอนุคณะกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 มีคณะอนุกรรมาธิการ,ที่ปรึกษาฯ เข้าร่วมประชุม คณะนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาศึกษาผลกระทบด้านการกีฬา และประโยชน์ที่ได้รับจากมาตรฐานการเยียวยาของภาครัฐ ประสานกับสมาคมกีฬาชนิดต่างๆ เพื่อรับทราบข้อมูลและรวบรวมประเด็นปัญหา ให้ได้มา ซึ่งข้อเสนอแนะต่อการเยียวยาบุคลากรกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และปฏิบัติหน้าที่อื่นๆตามที่คณะกรรมาธิการมอบหมาย โดยอาศัยอำนาจข้อ 96 ของข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562
          การประชุมครั้งนี้มีการพิจารณากรอบการทำงานของ คณะอุนกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬา มีการกำหนดเป้าหมายช่วยเหลือนักกีฬาปกติและนักกีฬาคนพิการ ,บุคลากรทางการกีฬา ผู้ตัดสิน ผู้ฝึกสอน ,ผู้บริหารองค์กรด้านการกีฬา, สมาคมกีฬาอาชีพ สโมสรกีฬาอาชีพ สมาคมกีฬาจังหวัด นักกีฬามวย นักกีฬาอาชีพ นักกีฬาเป็นเลิศ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขัน,ผู้ประกอบการธุรกิจกีฬา โรงเรียนฝึกสอนกีฬา สถานออกกำลังกายรวมไปถึงบุคลากรในสมาคมกีฬา ,สมาคมกีฬาจังหวัดต่างๆ และให้ศึกษาปัญหา กีฬามวย เป็นการเฉพาะ
             บรรยากาศการประชุมซึ่งใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง นอกจากความพยามการนำเสนอปัญหาในที่ประชุม การแสวงหาแนวทางการช่วยเหลือนักกีฬาทุกประเภท ตามขั้นตอนในทุกด้าน ของ การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังได้หารือถึงการเชิญ ผู้บริหารธนาคาร เพื่อขอคำแนะนำทางด้านสินเชื่อให้กับนักกีฬา และปัญหาการช่วยเหลือเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนพัฒนการกีฬาแห่งชาติแต่อย่างใด
นายกฤษฎา สัจจกุล ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า การช่วยเหลือปัจจุบันมี 5,000 บาท ให้กับ 13 ชนิดกีฬา แต่กีฬาชนิดอื่นไม่มีเลยทำให้นักกีฬาชนิดอื่นที่มีฝีมือเลิกเล่นกีฬา จึงขอเสนอให้ อนุกรรมาธิการชุดนี้พิจารณา
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ปัญหาอยู่ที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพราะผลกระทบโควิด19 ถึงแม้มีนโยบายจากรัฐบาล และมีการขึ้นทะเบียนไปแล้วปัจจุบันกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ก็ยังไม่ได้เข้าช่วยเหลือแต่อย่างใด และที่ผ่านมาก็ได้เชิญมาสอบถามแต่โดยสรุปก็เหมือนที่จะไม่ยอมช่วยเหลือจึงต้องการให้พิจารณากรณีนี้เร่งด่วนด้วย
ส.ส.ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ปัญหาโควิด-19 ในวงการกีฬาจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพราะจนถึงขณะนี้นักกีฬาหรือบุคลากรทางการกีฬายังเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือจากเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ คณะอนุกรรมาธิการนี้จึงมีเป้าหมายที่จะติดตามตรวจสอบปัญหาความล่าช้าด้านการช่วยเหลือนักกีฬา บุคลากรต่อปัญหาโควิด19 เพื่อรายงานต่อ ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร
“ผมเชื่อมั่นในการทำงานของ คณะอนุกรรมาธิการฯทุกคน เพราะทุกคนก็เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน และเราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในวงการกีฬา นักกีฬา บุคลากรทางการกีฬาเข้าถึงเงินช่วยเหลือ รวมไปถึงแหล่งเงินทุนที่จะเชิญผู้บริหารธนาคารเข้ามาให้คำปรึกษาและทำงานตามกรอบการช่วยเหลือ รวมไปถึงการให้คำแนะนำในการปรับตัวของสมาคมหรือสโมสรกีฬาในทุกสาขาอาชีพให้ต่อสู้และผ่านพ้นท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน” ส.ส.เอกการ กล่าวในที่สุด
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง คณะทำงาน คณะอนุคณะกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สภาผู้แทนราษฎร ๑. นายเอกการ  ซื่อทรงธรรม​​ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ
๒. นายวัชรพล โตมรศักดิ์​​ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง
๓. นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล​​ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่สอง
๔. นายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม​ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่สาม
๕. นายเกรียงไกร นาควะรี​​ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่สี่
๖. นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม​​ เป็นอนุกรรมาธิการ
๗. นายพงษ์ศักดิ์  สวัสดิเกียรติ​ เป็นอนุกรรมาธิการ
๘. นายอภิวัฒน์ จ่าตา​​ เป็นโฆษกคณะอนุกรรมาธิการ
๙. นายอภิรักษ์ หอมละออ​​ เป็นเลขาคณะอนุกรรมาธิการ
​๑๐. นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์​​ ผู้ช่วยเลขาคณะอนุกรรมาธิการ://ยุทธนา  เกียรติดำเนินงาม