วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2563

จังหวัดอุดรธานี-ทกจ.อุดรธานีจัดกิจกรรม ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก ยกระดับการท่องเที่ยวและกีฬาสู่สากล

 

         จังหวัดอุดรธานี โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี จัดกิจกรรม ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก เพื่อการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทั้งยังเป็นการยกระดับกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดอุดรธานีสู่สากล

             เมื่อวันที่  4  ต.ค. 63  เวลา 06.45น. ที่ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  เป็นประธานเปิดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา "ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก" โดยมีนางบำเพ็ญพร สุริยกมล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี กล่าวรายงาน  จังหวัดอุดรธานี บูรณาการร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี และชมรมจักรยานจังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการจัดโครงการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา "ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก" สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอีกทั้งยังเป็นการยกระดับกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดอุดรธานีสู่สากล เพื่อการออกกำลังกายให้มีสุขภาพที่ดี ให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ส่งเสริมการปั่นจักรยาน และเพื่อเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงและแหล่งศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านชุมชนบ้านเชียง ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวซึ่งเป็นมรดกโลกที่อยู่ภายในจังหวัดอุดรธานีเพื่อดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมการดำเนินวิถีชีวิตของชุมชนบ้านเชียงและพักผ่อนในพื้นที่ 

                 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  กล่าวว่า ขอขอบคุณหน่วยงาน องค์กร ทุกภาคส่วน   ที่เกี่ยวข้องที่เล็งเห็นความสำคัญของกิจกรรมการออกกำลังกาย โดยใช้โครงการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา "ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก"เป็นสื่อเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวได้มีกิจกรรมได้พบปะสร้างสัมพันธไมตรีอันดีซึ่งกันและกัน และเป็นการส่งเสริมยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญที่ทำให้รับรู้ถึงการดำรงชีวิตในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปกว่า 5,000 ปีแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่มีพัฒนาการหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านความรู้ความสามารถหรือภูมิปัญญา อันเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยให้ผู้คนสามารถดำรงชีวิตและสร้างสังคม-วัฒนธรรมของมนุษย์ได้สืบเนื่องต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนานด้วยเหตุนี้องค์การยูเนสโก จึงได้ขึ้นบัญชีแหล่งวัฒนธรรมบ้านเชียงไว้เป็นมรดกโลก อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นมรดกโลกทั้งเป็นการส่งเสริมยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมจังหวัดอุดรธานี

              ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้ นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รอง ผวจ.อุดรธานี ร่วมเป็นเกียรติและกล่าวต้อนรับคณะนักปั่นจักรยานตามโครงการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา "ปั่น ๒ ขา ๒ ล้อ ๒ น่อง ท่องเมืองมรดกโลก" ประจำปี ๒๕๖๓ จำนวน ๓๐๐ คน โดยมีนางบำเพ็ญพร สุริยกมล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี ,นางภาวนา ประจิตต์ ผอ.ททท.อุดรธานี นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอหนองหาน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเชียง และชาวบ้านเชียง ร่วมต้อนรับ  ซึ่งเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว เป็นการยกระดับกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดอุดรธานีสู่สากล เพื่อดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมและพักผ่อนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีเพิ่มมากขึ้น
                        สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย การแบ่งกลุ่มนักปั่นจักรยาน ออกเป็น 6 กลุ่ม โดยให้นักปั่นแต่ละกลุ่มเข้าศึกษาแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านชุมชนบ้านเชียง จำนวน6  ฐาน ฐานที่ 1  การใช้ดินดำทำลูกปัดแบบโบราณและปั้นหม้อ ฐานที่ 2 การย้อมผ้าคราม ฐานที่ 3 ชมบ้านไทพวน ฐานที่ 4 การทำพวงกุญแจ ร้อยดอกไม้ ฐานที่ 5 ฐานการย้อมผ้าโคลนคราม (บ้านดงเย็น) และฐานที่ 6 ฐานอุโบสถดอกบัวกลางน้ำ  นอกจากนั้น ช่วงรับประทานอาหารกลางวัน ยังได้จัดเตรียมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวของชุมชนท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานี  เพื่อให้นักปั่นได้รับประทานเป็นอาหารจากชุมชน อาหารจากชุมชนบ้านเชียง  ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน   อาหารจากชุมชนกุดหมากไฟ ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ    อาหารจากชุมชนนาดี ตำบลนาดี อำเภอหนองแสง   อาหารจากชุมชนโนนสวรรค์ ตำบลท่าลี่  อำเภอกุมภวาปี  นอกจากนั้น ทางสมาคมหลวงปู่เครื่อง อำเภออุทุมพรวิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ยังได้นำนางรำมาร่วมกิจกรรมและศึกษาดูงานในครั้งนี้ด้วย:ฤาษีลภ-ปวีณา//จ.หนองคาย
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น