หนองคาย-ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย
เข้มกวดขันแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย รวบ 2
คนไทย พร้อม 2 หนุ่มเวียดนามคาด่านพรมแดนถาวร
สะพานมิตรภาพไทย – ลาว
ก่อนจะลักลอบไปส่งที่ลาวโดยอาศัยความคุ้นเคยในการผ่านเข้า –ออก
ประจำ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
การจับกุมครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.หนองคาย
ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีนายหน้าแอบพาชาวเวียดนามที่อยู่เกินกำหนดออกนอกประเทศโดยผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้น
พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมใจประสงค์ รองผกก.ตม.หนองคาย
จึงได้มอบหมายให้, พ.ต.ต.ธีระพงษ์
ประจักษ์จิตร์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง
พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย
เฝ้าตรวจสอบจุดตรวจฝั่งขาออกกระทั่งพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนด์ ทะเบียน 30-0282 หนองคาย ได้อาศัยความคุ้นเคยรู้จักกับเจ้าหน้าที่
จึงขับรถผ่านจุดตรวจโดยไม่จอดรถให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เจ้าหน้าที่สงสัยจึงได้สกัดเรียกให้รถหยุด
ทราบชื่อคนขับ นายสมบัติ ชาวชายโขง
และมีอาชีพขับรถตู้โดยสารประจำด่านสะพานอยู่แล้ว ตรวจดูภายในรถ พบชาวเวียดนามสองคนนั่งอยู่เบาะด้านหลังสุด
จึงคุมตัวนายสมบัติ ฯ คนขับรถพร้อมชาวเวียดนามและทำการสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมบัติ ฯ
รับสารภาพว่าตนเคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง
และได้รับว่าจ้าง 1,000 บาท จาก นางอรปภา
ศรีรัตนอุดร ที่นำชาวเวียดนามทั้งสองคนมาส่ง ให้ตนที่ด่านสะพาน
เพื่อให้ตนพาข้ามไปยัง สปป.ลาว หลังจากที่ นางอรปภาฯ นำชาวเวียดนามมาส่งตนแล้ว ได้ขึ้นรถโดยสารประจำสะพานเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ตามไปจับกุมนางอรปภาฯ
ไว้ได้ และรับสารภาพว่า
ตนได้เรียกเก็บเงินกับชาวเวียดนามทั้งสองคน คนละ 3,000 บาท
เพื่อจะพามาส่งข้ามด่านพรมแดน โดยพามาขึ้นรถที่ บขส.อุดรธานี
เพื่อมาส่งให้กับนายสมบัติ ฯ ให้พาทั้งสองข้ามด่านพรมแดนไป สปป.ลาว
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องโทษ
โดยร่วมกันช่วยเหลือผู้นั้นด้วยประการใดๆ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม
จากการสอบถาม
ชาวเวียดนามทั้งสองคน ว่าพวกตนได้เดินทางมาท่องเที่ยวแล้วแอบทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต
และเคยถูกจับกุมที่ จ.ภูเก็ต มาแล้วครั้งหนึ่งในข้อหาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมา
และทราบว่าทางการจะกวดขันชาวต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย
พวกตนกลัวว่าจะถูกจับ จึงได้ว่าจ้าง นางอรปภา ฯ ช่วยให้พาออกนอกประเทศ
แต่ก็มาถูกจับเสียก่อนซึ่งทั้งสองเป็นชาวเวียดนาม
มีหนังสือเดินทางถูกต้องแต่อยู่ในไทยเกินกำหนด
นายทู ดั้ก คิว อยู่เกิน 895 วัน นายมาน เกือง ปาม อยู่เกิน 615 วัน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งขอวหาแก่ทั้งสองเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พันธลภ แสงทอง
ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น