เกษตรกรไทย
ได้เฮหลัง"บิ๊กตู่"เคาะงบช่วยเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19
ตามนโยบายรวมไทยสร้างชาติรัฐรวมมวลชนเป็นหนึ่งใจเดียวกัน
เมื่อวันนี้
25 มิถุนายน 2563 ณ ห้องประชุมศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ทำเนียบรัฐบาล
กรุงเทพมหานคร นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ตัวแทน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ
"เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย" ร่วมกับ นายภูษณ
ปรีย์มาโนช อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอานนท์ แสนน่าน
ประธานเครือข่ายเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย นายองอาจ วิเศษ
ประธานเครือข่ายผู้บริหารท้องถิ่นไทย พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ
นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่ออออนไลน์ภาคอีสาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจน
และประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 37 จังหวัด รวม 3,058 วิสาหกิจชุมชน หลังจาก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบแล้ว
ในการประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก
นายอานนท์ แสนน่าน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย
ได้ยื่นหนังสือผ่านตนมาเพื่อให้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ฯพณฯท่าน พล.อ.ประยุทธ
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย โดย นายอานนท์
แสนน่าน ประธานเครือข่ายฯ เป็นผู้ประสานงานกับหมู่บ้านต่างๆ ภายในประเทศ
มีสมาชิกมากกว่า 28,850 หมู่บ้าน ดำเนินการจดทะเบียนเป็น กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 3,058
กลุ่ม และรวมกันเป็น"เครือข่าย"ที่รับผิดชอบจากสมาชิก ภาคอีสาน ภาคเหนือ
ภาคกลาง และภาคใต้ ของประเทศไทย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่
จะประกอบอาชีพทำการเกษตร โดยเครือข่ายฯ ได้มีข้อเสนอและขอรับการสนับสนุน
ดังนี้
1.ขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับพื้นที่รายจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด
รวมจำนวน 37 จังหวัด แบ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจ 3,058 กลุ่ม และการจัดทำโครงการ 3,058
โครงการ โดยการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรด้านปศุสัตว์ ด้านประมง ด้านการผลิตพืช
สนับสนุนปัจจัยงาน OTOP และการเพิ่มศักยภาพและสนับสนุนปัจจัยการผลิต
หมอดินอาสา สารปรับปรุงดิน การผลิตพันธุ์พืช การปลูกกัญชา-กัญชง การปลูกพืชสมุนไพร
และ 2.ขอให้รัฐบาลจัดตั้ง "คณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนเกษตรกร"
(คปจ.กษ.) ขึ้นภายใต้ของสำนักนายกรัฐมนตรี
หลังจากนั้นทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ได้พิจารณาเห็นชอบและข้อเสนอ พิจารณาแล้วเห็นว่า
การขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นถือเป็นปัจจัยที่สำคัญหนึ่งที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจ
ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างแรงงานในพื้นที่
สร้างรายได้ให้แก่สมาชิกที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร
และส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ จึงเห็นควรมอบหมาย ดังนี้ 1
เห็นควรส่งเรื่องการขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โดยให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
พิจารณาสนับสนุนภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19
เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพวิสาหกิจชุมชน
ตามแผนการใช้จ่ายในวงเงิน 4 แสนล้านบาท ส่วนการจัดตั้ง
"คณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนเกษตรกร" (คปจ.กษ.)
ขึ้นภายใต้ของสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
พิจารณาดำเนินการต่อไป:พิสิษฐ์ ชาญเจริญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น