หนองคาย – เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ
ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ นรข.เขตหนองคาย ผู้นำท้องถิ่นออกตรวจสอบเรือดูดทรายลาวกลางแม่น้ำโขง
พบรุกล้ำเข้ามาดูดทรายเขตไทย บริเวณหัวสันดอนต่ำดอนแตง
ทัย รักษาราชการหัวหน้าสถานีเรือศรีเชียงใหม่ นรข.เขตหนองคาย.นายแสงเพชร โพธิรัตน์ กำนันตำบลโพนสา และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งพร้อมผู้สื่อข่าว ลงเรือออกตรวจสอบ เรือดูดทรายของประเทศลาว หลังจากชาวบ้านร้องเรียนผ่านสื่อและสื่อได้นำเสนอข่าวของปัญหาไปเมื่อวันที่ 17 ก.พ.61 ที่ผ่านมา ว่ามีผู้ประกอบการดูดทรายของประเทศลาว นำเรือดูดทราย 2 ลำ และเรือลำเลียง 4 ลำ มาทำการดูดทราย หินกรวด บริเวณหัวดอนต่ำดอนแตง ตรงข้ามกับบ้านท่ามะเฟือง ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ซึ่งดอนต่ำดอนแตง เป็นสันดอนของไทย ทำให้ดอนที่เป็นพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ทรุด ถูกน้ำโขงกัดเซาะ และร่องน้ำโขงเปลี่ยนทิศทาง ส่งผลกระทบด้านความมั่นคงและระบบนิเวศในแม่น้ำ และทำให้ไทยต้องสูญเสียดินแดน จากการกระทำดังกล่าว นั้น
เจ้าหน้าที่นำโดย
นายธรรมพล
ไชยนาม ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ร่วมกับ
เรือโทสราวุฒิ ศักดิ์นาวีอุทัย
รักษาราชการหัวหน้าสถานีเรือศรีเชียงใหม่ นรข.เขตหนองคาย และเจ้าหน้าที่พร้อมผู้สื่อข่าว
ได้ออกตรวจสอบบริเวณที่ได้รับการร้องเรียนพบเรือสัญชาติลาวได้วางทุ่นดูดหินกรวด-ทราย
เข้ามาในเขตไทยและกำลังทำการดูดหินกรวด- ทราย จึงได้ให้ผู้ควบคุมเรือหยุดการเดินเครื่อง
และทำการตรวจสอบทาง GPS ร่วมกับผู้ประกอบการและผู้ควบคุมเรือ
ปรากฏเรือลำดังกล่าวได้รุกล้ำเข้ามาลักลอบดูดหินกรวด- ทราย ในเขตไทยบริเวณหัวสันดอนต่ำ ดอนแตง ลึกเข้าไปประมาณ 20 กว่า เมตร จากการสอบถามผู้ควบคุมเรือ
บอกว่าตนเป็นลูกจ้างขับเรือควบคุมเรือและได้นำเรือออกมาจากฝั่ง ลาว เวลาประมาณ 04.00 น.ทุกวันเมื่อดูดหินกรวดเต็มลำเรือแล้วก็จะนำเรือกลับเข้าฝั่งเพื่อขนถ่ายหินกรวดลง
และรอบนี้เป็นรอบที่สอง ซึ่งรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับเขตแดนนั้นตนไม่ทราบ
เพียงทำตามคำสั่งนายจ้างเท่านั้น รอให้สอบถาม นายพงศธร /ออดี้ (ไม่ทราบนามสกุล)ซึ่งเป็นผู้ผู้บริหาร
และนางกนกวรรณ (ไม่ทราบนามสกุล) พี่สาว นายออดี้
ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเสมียนประจำบริษัท BL ซึ่งทั้งสองแจ้งว่าได้รับสัมปทานให้ดูดทรายฝั่ง
ลาว เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการก็ได้ตรวจสอบเขตร่วมกันในเบื้องต้นด้วยระบบ
GPS ซึ่งนายออดี้ หรือพงศธร ยอมรับและยืนยันว่า
เรือดูดทรายของตนได้เข้าไปดูดทรายในเขตไทยจริง เนื่องจากฝั่งลาวไม่มีหินกรวด และพวกตนต้องการหินกรวดจำนวนมาก
และเห็นว่าบริเวณบริเวณหัวสันดอนต่ำ ดอนแตง ของไทยนั้นมีหินกรวดมาก
จึงได้ทิ้งทุ่นและนำเรือเข้ามาดูดดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ฝั่งลาวไม่ให้พวกตนเข้าไปดูดในเขตลาวเนื่องจากจะทำให้ตลิ่งฝั่งลาวทรุด
พังได้รับความเสียหาย
จึงได้ลักลอบเข้ามาดูดในเขตไทย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวทั้งหมดมาทำความเข้าใจเบื้องต้นที่ฝั่งประเทศไทย
โดยมีนายวิไล สีหาปัญญา รองนายบ้านบ้านดอน
เมืองหาดทรายฟอง กำแพงนครเวียงจันทน์ เดินทางมาร่วมรับฟังด้วย จากการเจรจาเบื้องต้นผู้ประกอบการดูดทรายลาว
ยอมรับว่าได้ลักลอบเข้ามาดูดในเขตไทยจริง เจ้าหน้าที่ไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจและให้ถอนสมอเรือให้นำเรือออกจากเขตไทย
และเป็นการตักเตือนในฐานะบ้านพี่เมืองน้อง
และไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากพบการกระทำผิดอีก
ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการลาวพอใจ และยอมรับพร้อมให้เรือถอยออกจากเขตไทย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ผู้ประกอบการไปนำเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นต่อผู้นำท้องถิ่นของฝั่ง
ลาว เพื่อให้มาประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ไทยในการหาแนวทางแก้ไขร่วมกันเพื่อป้องกันการเกิดความขัดแย้งและอาจเกิดการเข้าใจผิดต่อกันทั้งสองฝ่าย
ผู้ประกอบการรับว่าจะได้ไปนำเรียนทางผู้นำท้องถิ่นฝั่งลาวต่อไป จากนั้นผู้ประกอบการลาวได้เดินทางกลับ
จากการติดตามของผู้สื่อข่าวทราบว่า
บริเวณดังกล่าวเป็นปัญหาหาเรื้อรังมานานที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย
ซึ่งส่งผลให้หัวดอนสันดอนของไทยบริเวณดังกล่าว เกิดการทรุดตัว ได้รับความเสียหาย จากการยืนยันของประชาชนว่า
พวกตนไม่ทราบจะพึ่งใครได้ ร้องเรียนมาก็หลายครั้ง ก็ยังเห็นเหมือนเดิม ต้องมาพึ่งสื่อมวลชนเพื่อเป็นสื่อกลางในการสะท้อนปัญหาในท้องถิ่นเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้รับทราบปัญหาที่แท้จริง
เพื่อลดความหวาดระแวง และหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันของพี่น้องทั้งสองฝั่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น