วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

กาฬสินธุ์ - ความฝันน้องมิวสิคเป็นจริงเมื่อพ่อเมืองคัวกกระเป๋าค่าใช้จ่ายไปรับแม่ที่สนามบินอุดร



                กาฬสินธุ์ น้องมิวสิคเฮได้พบแม่แล้ว ผู้ว่ากาฬสินธุ์ควักกระเป๋าออกค่าใช้จ่ายเดินทาง
น้องมิวสิคเฮโผเข้ากอดแม่ หลังจากถูกปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดยะลา เนื่องจากเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ ขณะที่ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด พร้อมช่วยเหลือเต็มที่ตามโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล กาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังซึ่งเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
                    จากกรณีนางประไพนี อาทิกร  อายุ 57 ปี ชาว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ หนังสือร้องทุกข์ต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.เขาวง  ในโอกาสเดินทางตรวจราชการที่ อ.เขาวง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 หลังน.ส.วารีรัตน์ สำเร็จงาน อายุ 37 ปี ลูกสาวถูกตำรวจยะลา นำหมายศาลมาจับกุมและควบคุมตัวไปและถูกคุมขังในเรือนจำ จ.ยะลา ซึ่งน้องมิวสิคลูกชาย เขียนจดหมายระบายความในใจถึงแม่ สร้างความสะเทือนใจให้กับเพื่อนบ้านที่พบเห็น กระทั่งนายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ประสานงานกับเรือนจำจ.ยะลาเปิดวีดีโอคอนเฟอเซนซ์ให้น้องมิวสิคได้พบแม่ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือเต็มที่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
                 ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 มีนาคม 2561 นายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง จัดรถตู้พาน้องมิวสิค และญาติไปรับน.ส.วารีรัตน์ที่สนามบิน จ.อุดรธานี หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ จ.ยะลา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาจากการประสานงานของปลัดกระทรวงยุติธรรม และเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง
โดยน้องมิวสิค พร้อมญาติพี่น้องรวม 3 คนได้เดินทางด้วยรถตู้ โดยการอำนวยความสะดวกของนายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ที่มอบให้นายอำเภอเขาวงเป็นผู้พาเดินทางไปรับน.ส.วารีรัตน์ ที่สนามบิน จ.อุดรธานี ส่วนนางประไพนี ไม่ได้มาด้วย เพราะต้องเตรียมจัดงานบายศรีสู่ขวัญที่บ้าน ทั้งนี้น้องมิวสิคได้นั่งรออย่างใจจดใจจ่อและตื่นเต้น ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับซื้อขนมมันฝรั่งและลูกอมมาฝากแม่ ซึ่งทันทีที่เครื่องบินไลออนแอร์ 990 หาดใหญ่-อุดรธานีลงจอด และน.ส.วารีรัตน์ได้เดินออกมาจากประตูทางออกผู้โดยสาร น้องมิวสิคและน.ส.วารีรัตน์ได้วิ่งโผเข้ากอดแม่ด้วยความดีใจและร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ ท่ามกลางความดีใจของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่อยู่ในสนามบิน ก่อนที่จะจูงมือพากันขึ้นรถตู้กลับบ้านที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีของชาวผู้ไทย
น.ส.วารีรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ได้ใจเป็นที่สุดที่ได้เจอหน้าลูกชายและได้เจอแม่ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่ภาคส่วน และกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เรือนจำ จ.ยะลา เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานยุติธรรมทั้งสองจังหวัด ตลอดจนสื่อมวลชนที่ช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฉ้อโกงและยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนจะทำหน้าที่แม่และหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด
ด้านนายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณี น.ส.วารีรัตน์ ล่าสุดได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ จ.ยะลาแล้ว เนื่องจากเจ้าทุกข์ที่เข้าแจ้งความข้อหาร่วมกันฉ้อโกงนั้นไม่ประสงค์ติดใจเอาความ ทั้งอาญา และแพ่ง และจากการประสานงานของปลัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานยุติธรรม จ.ยะลา และสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเดิมทันทีที่ถูกปล่อยตัวนั้นทางสำนักงานยุติธรรม จ.ยะลาจะพาขึ้นรถมาส่งที่บ้าน จ.กาฬสินธุ์ แต่เนื่องจากระยะทางไกล ประกอบกับน้องมิวสิคคิดถึงแม่มาก ส่วนนางประไพนี ก็คิดถึงลูก เพราะไม่เจอหน้ากันนาน ตนจึงให้ขึ้นเครื่องบินจาก จ.ยะลา มาลงที่ จ.อุดรธานี โดยตนออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด พร้อมกับมอบหมายให้นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวงจัดรถตู้พาน้องมิวสิค และญาติรับน.ส.วารีรัตน์ที่สนามบิน จ.อุดรธานี

นายไกสร กล่าวอีกว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือนั้นครอบครัวนี้ก็อยู่ในโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล กาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังซึ่งเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว และตนก็ได้กำชับให้ทางอำเภอเขาวงดูแลครอบนี้อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย การจัดหาปัจจัยเพื่อสร้างอาชีพ การประกอบอาชีพ เช่นพันธุ์เป็ด พันธุ์ไก่ และกระบือ เพื่อนำไปเลี้ยงสร้างรายได้ รวมทั้งการดูแลเรื่องทุนการศึกษาของน้องมิวสิค ได้ให้ทางอำเภอเขาวงและกาชาดจังหวัดดูแล เพราะเท่าที่พูดคุยน้องมิวสิคเป็นเด็กที่เรียนดี และอยากเรียนสูงๆโตขึ้นในอนาคตอยากเป็นวิศวกร ซึ่งทุกคนต่างดีใจกับ น.ส.วารีรัตน์ ที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา และดีใจกับน้องมิวสิคที่ได้พบหน้าแม่ ซึ่งต้องขอขอบคุณปลัดกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแทนครอบครัวน้องมิวสิคที่ช่วยกันประสานงานจนได้รับการปล่อยตัวและสองแม่ลูกได้เจอหน้ากัน โดยทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะคอยช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม   -ข่าว/ภาพ 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น