หนองคาย ศุลกากรหนองคาย
ยึดกล้วยไม้ต้องห้ามกว่า 6,600 ต้น มูลค่ากว่า 600,000
บาท ขณะพยายามลักลอบออกนอกประเทศ
วันที่ 30 พ.ค. 61 ที่ลานเอนกประสงค์บ้านพักด่านศุลกากรหนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ
นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร,
เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 ประจำสำนักงานสนับสนุนการป้องกันปราบปรามที่
2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สปป.2) และด่านตรวจพืชหนองคาย
ร่วมกันแถลงข่าวการ ตรวจยึดกล้วยไม้ต้องห้าม
สายพันธุ์แวนด้า 2,935 ต้น สายพันธุ์หวาย 1,450
ต้น สายพันธุ์แกรมมาโต 300 ต้น
สายพันธุ์แปรงสีฟัน สายพันธุ์ช้างปรับปรุงสายพันธุ์ 1,135 ต้น
นอกจากนี้ ยังมีต้นพันธุ์ทับทิม 161 ต้น ลำไย 31 ต้น รวมทั้งสิ้น 6,611 ต้น พร้อมด้วยฮอร์โมนบำรุงดอก
50 ชุด มูลค่าประมาณ 600,000 บาท โดยเป็นการลักลอบนำสินค้าประเภทกล้วยไม้และสินค้าอื่นโดยลักลอบส่งออกนอกราชอาณาจักร
โดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร เป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบกับ
มาตรา 166,252
แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560
และต้นพันธุ์ลำไยจัดเป็นพืชสงวนตามประกาศกระทรวงเกษตรแลพสหกรณ์ ตาม พ.ร.บ.พันธ์พืช
พ.ศ.2518
นายนิมิตร แสงอำไพ
นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า ตามที่ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้
นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ
ผู้อำนวยการศุลกากรภาคที่ 2
ได้เน้นการปราบปรามเข้มงวดในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากรที่ผิดกฎหมาย
ซึ่งนายนิมิตร แสงอำไพ
นายด่านศุลกากรหนองคาย เปิดเผยว่า
การตรวจยึดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย–ลาว อ.เมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
ได้ตรวจพบลังกระดาษจำนวนมาก วางปะปนอยู่กับกล่องสินค้าอุปโภคบริโภคในรถโดยสารข้ามสะพาน
ที่กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศจากการสอบถาม ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ
จึงตรวจสอบพบว่าเป็นกล้วยไม้หลายสายพันธุ์ ซึ่งการส่งออกกล้วยไม้สามารถกระทำได้
แต่ต้องเป็นกล้วยไม้เลี้ยง และต้องขออนุญาตส่งออกกับเจ้าหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
แต่ในกรณีนี้เป็นการลักลอบส่งออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร
โดยจะทำการตรวจพิสูจน์ว่าเป็นกล้วยไม้ประเภทใดบ้าง หากเป็นกล้วยไม้ป่า
ก็เป็นการกระทำผิดตามบัญชีไซเตส
ต้องส่งมอบให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชไปดำเนินการ
ฤาษีลภ/ทีมข่าวจังหวัดหนองคาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น