หนองคาย –
อำเภอโพธิ์ตาก จัดกิจกรรม ฟื้นฟูและสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี
ไทพวน ประจำปี 2561 “ซุมข้าวแลงพาหย่อง ส่องวัฒนธรรมไทพวน” ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย
ที่ ศูนย์การเรียนรู้อำเภอโพธิ์ตาก
จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว
เพื่อฟื้นฟูและสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี ไทพวน ประจำปี 2561 ภายใต้ชื่อ “ซุมข้าวแลงพาหย่อง
ส่องวัฒนธรรมไทพวน” โดยก่อนพิธีเปิดได้มีการแสดง “ฟ้อนบายศรี” ” โดย โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร
และพิธีบายศรีวิถีไทยพวน ต่อด้วยพิธีเปิดงาน “ซุมข้าวแลงพาหย่อง
ส่องวัฒนธรรมไทยพวน” และร่วมกันปักธงที่เจดีย์ทรายตามความเชื่อแต่โบราณ
นายอดิศร วิทูรศิลป์ นายอำเภอโพธิ์ตาก กล่าวว่า
อำเภอโพธิ์ตาก ร่วมกับชมรมไทพวนอำเภอโพธิ์ตาก ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดหนองคาย
เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและฟื้นฟูสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี ไทพวน
ประจำปี 2561 ขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ประเพณีท้องถิ่นไทพวนอำเภอโพธิ์ตาก
เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาวัฒนธรรมประเพณีการแต่งกายไทพวน ให้เป็นเอกลักษณ์ และ อัตลักษณ์
เพื่ออนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทพวน
ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้แก่เด็กเยาวชน
นักเรียนนักศึกษาประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
และเป็นการสร้างงานเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่
กิจกรรมต่างๆในวันนี้
เป็นกิจกรรมที่ถือให้เห็นวิถีชีวิตของชาวไทพวน ประกอบด้วย
ขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมประเพณีชาวไทพวน
การแสดงวัฒนธรรมด้านการแต่งกายชนเผ่าไทพวน
การแสดงบนเวทีและการประกวดการแต่งกายตามแบบไทพวน และกิจกรรมโฮมพาแลง โดยมีพี่น้องไทพวนจากหลายพื้นที่ ประกอบด้วย
สมาคมไทพวนแห่งประเทศไทย, ไทพวนบ้านผือ จ.อุดรธานี และไทยพวนบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
มาร่วมงานจำนวนมาก.
วิถีชีวิตของชาวไทยพวนบ้านโพธิ์ตาก
จะมีวิถีชีวิตเฉกเช่น ชนเผ่าไทยพวน
ในประเทศไทยโดยทั่วไป นั่นก็คือ จะมีความผูกพันกับธรรมชาติโดยมีปัจจัย 3 อย่างเป็นตัวประกอบ คือ ข้าว ฝ้าย ไม้ไผ่ ข้าวเหนียว ข้าวเจ้า
เป็นอาหารหลักของไทพวนบ้านโพธิ์ตาก เพราะมีการประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรม
มีการทำนา ตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษและยังสืบทอดต่อกันมาจนถึง
ปัจจุบัน โดยจะทำนาปีละ 2 ครั้ง หรือบางปีที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ก็จะทำนาถึง 3 ครั้ง ทุกบ้านจะปลูกข้าวเจ้าไว้กินเอง และมีการตำข้าวเม่า หาบไปขายยังหมู่บ้านต่างๆ เป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านโพธิ์ตาก มีรสชาติหอมหวานอร่อย และอ่อนนุ่มเมื่อรับประทาน จะมีทั้งยังไม่คลุกมะพร้าว น้ำตาล และที่คลุกแล้ว ข้าวที่ปลูกเมื่อก่อนจะเก็บไว้กินไม่ขาย แต่ในปัจจุบันปลูกไว้เพื่อขายเพียงอย่างเดียว ในการทำนาแต่ละปี จะมีพิธีกรรมในการสู่ขวัญข้าว ด้วย อาชีพเสริม คือ การทอผ้า ถือได้ว่าการทอผ้ามัดหมี่ของไทพวนบ้านโพธิ์ตาก เป็นที่ต้องตาต้องใจ ของท้องถิ่นใกล้เคียงอยู่มาก
ฝ้าย เป็นปัจจัยที่สำคัญรองลงมา เพราะผู้หญิงไทพวนบ้านโพธิ์ตาก จะนำฝ้ายมาทอผ้าใช้เอง แต่ ในปัจจุบัน เกิดความเปลี่ยนแปลงของสังคมไปบ้าง ที่ปรับเปลี่ยนไปตามกระแสความเจริญทำให้มีการซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปใส่เองไม่เหมือนแต่ก่อน การทอผ้าในแต่ละครอบครัวลดน้อยลง จะคงเหลือไว้บ้างสำหรับครอบครัวที่มีอาชีพทอผ้า และคงอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กๆ และชุมชนในหมู่บ้านเท่านั้น
ปัจจุบัน โดยจะทำนาปีละ 2 ครั้ง หรือบางปีที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ก็จะทำนาถึง 3 ครั้ง ทุกบ้านจะปลูกข้าวเจ้าไว้กินเอง และมีการตำข้าวเม่า หาบไปขายยังหมู่บ้านต่างๆ เป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านโพธิ์ตาก มีรสชาติหอมหวานอร่อย และอ่อนนุ่มเมื่อรับประทาน จะมีทั้งยังไม่คลุกมะพร้าว น้ำตาล และที่คลุกแล้ว ข้าวที่ปลูกเมื่อก่อนจะเก็บไว้กินไม่ขาย แต่ในปัจจุบันปลูกไว้เพื่อขายเพียงอย่างเดียว ในการทำนาแต่ละปี จะมีพิธีกรรมในการสู่ขวัญข้าว ด้วย อาชีพเสริม คือ การทอผ้า ถือได้ว่าการทอผ้ามัดหมี่ของไทพวนบ้านโพธิ์ตาก เป็นที่ต้องตาต้องใจ ของท้องถิ่นใกล้เคียงอยู่มาก
ฝ้าย เป็นปัจจัยที่สำคัญรองลงมา เพราะผู้หญิงไทพวนบ้านโพธิ์ตาก จะนำฝ้ายมาทอผ้าใช้เอง แต่ ในปัจจุบัน เกิดความเปลี่ยนแปลงของสังคมไปบ้าง ที่ปรับเปลี่ยนไปตามกระแสความเจริญทำให้มีการซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปใส่เองไม่เหมือนแต่ก่อน การทอผ้าในแต่ละครอบครัวลดน้อยลง จะคงเหลือไว้บ้างสำหรับครอบครัวที่มีอาชีพทอผ้า และคงอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กๆ และชุมชนในหมู่บ้านเท่านั้น
ไม้ไผ่ ทุกบ้านต้องมีไม้ไผ่ปลูกล้อมเพราะเครื่องมือ เครื่องไม้ เครื่องใช้ทั้งหมดจะสานจากไม้ไผ่ ได้แก่ เครื่องมือจับสัตว์น้ำ เช่น ลอบ ไซ แงบ สุ่มดักปลา ข้อง เครื่องใช้ในครอบครัว เช่น กะชอน กระด้ง กระจาด กระบุง ชะลอม สุ่มไก่ เป็นต้น ในปัจจุบันวิถีชีวิตเหล่านี้เริ่มเปลี่ยนไป คนเฒ่าคนแก่เป็นบุคคลสำคัญที่ยังคงรักษาประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อแบบดั้งเดิมไว้ เพื่อการอนุรักษ์ และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กๆ และชุมชนในหมู่บ้านต่อไป
ชาวพวนมีนิสัยรักความสงบ ใจคอเยือกเย็น มีความโอบอ้อมอารี ยึดมั่นในศาสนา รักอิสระ มีความขยันขันแข็งในการการประกอบอาชีพ เมื่อว่างจากการทำไร่ทำนาก็จะทำงานหัตถกรรม คือ ผู้ชายจะสานกระบุง ตะกร้า เครื่องมือหาปลา ส่วนผู้หญิงจะทอผ้า
อาหารของชาวไทยพวนที่มีประจำทุกครัวเรือนคือ ปลาร้า ซึ่ง เป็นส่วนประกอบในการปรุงรสอาหาร ได้หลากหลาย แทนน้ำปลาในปัจจุบัน เมื่อมีงานบุญมักนิยมทำ ข้าวปุ้น(ขนมจีน) ข้าวจี่ และข้าวหลาม ส่วนอาหารอื่น ๆ จะเป็นอาหารง่าย ๆ ที่ประกอบจากพืชผัก ปลา ที่มีในท้องถิ่น เช่น ปลาส้ม ปลาส้มฟัก และนอกจากนั้น ก็อาจประกอบอาหารจากดอกแคป่า เรียกว่า ห่อหมก โดยคลุกเคล้าส่วนผสมของปลาหรือเนื้อสัตว์ที่สับละเอียดกับสมุนไพรบางชนิด ปรุงรส (รสนัวจากปลาร้าด้วย) แล้วกรอก(ยัด) ลงในดอกแคป่าที่ล้างทำความสะอาดแล้ว จากนั้นก็นำไปนึ่งจนสุก ก็จะเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ อาหารชนิดอื่นเลย
ฤาษีลภ
ข่าว / อภิชาติ ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น