กาฬสินธุ์ กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์
พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ที่ดิน และเจ้าหน้าที่กรมท่า
สนธิกำลังเข้าตรวจสอบตลิ่งลำปาว เขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์
หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนายทุนลักลอบขุดที่สาธารณะ สามารถยึดรถแบ็คโอ
รถขนทราย พร้อมคนขับ
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 พันเอกมานพ ไขขุนทด
รอง กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัญย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รอง ผผก.(สอบสวน)
สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
ทหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า
จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบที่บริเวณตลิ่งลำน้ำปาว บ้านนาสัมพันธ์ ต.บึงวิชัย อ.เมือง
จ.กาฬสินธุ์
หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้มีกลุ่มนายทุนลักลอบเข้ามาขุดทรายในพื้นที่
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบว่าเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ อยู่ติดกับลำปาว มีกองทรายขนาดใหญ่ รถแบ็คโฮ 1 คันติดสติ๊กเกอร์ สุขสันต์เซลส์ รถแทรกเตอร์
1 คัน และรถบรรทุก 10 ล้อติดสติ๊กเกอร์ สุขสันต์เซลส์ 1 คันและอีก 4 คันติดสติ๊กเกอร์นิยมทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวคนขับรถไว้ทั้งหมด
จากนั้นผู้รับเหมาได้แสดงตัว แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าได้รับการว่าจ้างจากผู้รับเหมาอีกคนให้มาตักทรายในพื้นที่ดังกล่าว
ซึ่งเจ้าของพื้นที่คือนายล้วน ศรีสุทัศน์
จากนั้น
เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายล้วนมาทำการสอบสวน พร้อมตรวจสอบโฉนดที่ดิน
ที่นายล้วนนำมายืนยันว่าเป็นของตนเองจริง
โดยนายล้วน
ได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่าลูกสะใภ้และภรรยาเป็นคนขายหน้าดินให้ผู้รับเหมาในราคา 20,000 บาท และให้ปรับทางเข้าออกให้ด้วย
ผ่านมาเป็นเดือนจึงมีรถมาทำการขุดทรายออกไป จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์
ได้ทำการตรวจสอบแนวเขตแดนพื้นที่ตามโฉนดที่ดิน
กลับพบว่าพื้นที่ตามโฉนดไม่ได้อยู่ตรงที่ทำการขุดทราย แต่อยู่ถัดออกไป พื้นที่ขุดทรายเป็นแนวตลิ่งลำน้ำปาว
ซึ่งเป็นที่สาธารณะ จึงให้ทางเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้บุกรุกตามกฎหมาย
พันเอกมานพ
ไขขุนทด รอง กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์
เปิดเผยว่าหลังจากที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาฬสินธุ์
ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนายทุนเข้ามาลักลอบเข้ามาขุดทรายในพื้นที่บ้านนาสัมพันธ์
ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นำออกไปจำนวนหลายคันรถ จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ขุดทรายอยู่ข้างเคียงของพื้นที่ที่มีโฉนดที่ดินของชาวบ้านที่กล่าวอ้างเบื้องต้น
โดยจุดที่ขุดทรายนำออกไปเป็นแนวตลิ่งของลำน้ำปาวซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ
และจากการสอบถามผู้รับเหมาเบื้องต้น
อ้างว่าได้รับการวางจ้างจากนายทุนอีกคนให้มาทำการขุดทรายในพื้นที่ดังกล่าว
โดยได้ขุดทรายและนำทรายออกไปประมาณ 7 คันรถ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจยึดรถแบ็คโฮ รถแทรกเตอร์ และรถบรรทุก 5 คัน ที่อยู่ในพื้นที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งการขุดทรายในพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
และจะทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม -ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น