วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

"อานนท์ แสนน่าน" ประกาศปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยชีวิต

 

                 "อานนท์ แสนน่าน" ประกาศปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เตรียมรวมผู้จงรักภักดี จากทุกภาคทั่วประเทศ เดินทางเข้ากรุงเทพฯไปถวายพระพรใน "วันพ่อแห่งชาติ'

"อานนท์ แสนน่าน" ฉลองรางวัลพระราชทาน พร้อมประกาศปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ นำคณะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและทำบุญเบิกเนตรพระพุทธเจ้าปางมารวิชัย ถวายเป็นพระราชกุศลในหลวงรัชกาลที่ 10 เตรียมรวมผู้จงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์จากทุกภาคทั่วประเทศ เดินทางเข้ากรุงเทพฯไปร่วมถวายพระพรใน "วันพ่อแห่งชาติ'

              ณ เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย ชุมชนพรสวรรค์ ทต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน  ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย ให้การต้อนรับ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ ประธานที่ปรึกษาเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย นายศักดิ์ชาย พรหมโท ประธานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) แห่งประเทศไทย นางธนภัทร พันธวาส ประธานเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งประเทศไทย ประธานภูมิภาคทั้ง 4 ภาค ประธานจังหวัด ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และประชาชน ที่เดินทางมาแสดงความยินดี งานฉลองรางวัลพระราชทานธรรมาภิบาล สิงห์ทองประจำปี 2563 สาขาผู้บริหารและนักพัฒนาองค์กรดีเด่นแห่งปี และ รางวัลพระราชทานเชิดชูเกียรติ คนดีศรีสยาม” (รางวัล ญาณสังวร) ประจำปี 2563 สาขานักพัฒนาและทำคุณประโยชน์ต่อศาสนาและสังคมดีเด่น ตามโครงการเทิดพระเกียรติองค์ราชัน รัฐ ราษฎร์ ร่วมใจภักดิ์ ทำความดี คืนคุณแผ่นดิน 2 รางวัล ภายใต้โครงการยกย่องและสร้างสรรค์บุคคลและนักปกครองที่ดีและเป็นแบบตัวอย่าง ขับเคลื่อนเพื่อความเข้มแข็งของประเทศ จาก ฯพณฯ ท่านอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรีในรัชกาลที่ 9 ประธานพิธีเป็นผู้มอบให้ หลังจากที่ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก ร.9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชาส่งเสริมความรู้และการมีส่วนร่วมของเกษตรกร พร้อมกับได้พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ ส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ติดต่อกันมาหลายปีตามสโลแกนที่ว่า พร้อมทุกเมื่อ เพื่อชาวเกษตรกร

ซึ่งในช่วงเช้าได้มีพิธีเบิกเนตรพระพุทธเจ้าปางมารวิชัย หรือ "หลวงพ่อปราบมาร" ทำบุญถวายพระเพลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร "ในหลวงรัชกาลที่ 10" ให้พระองค์ท่านชนะมารและปราบมารพวกจาบจ้วงจ้องล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระมหากษัตริย์ผู้สร้างเมืองสร้างประเทศ จนทำให้พวกเรามีประเทศไทยมาตราบเท่าทุกวันนี้  หลังจากนั้นคณะผู้มาร่วมงาน ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อประกาศปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และสรรเสริญพระบารมีถวายพระพรพระองค์ท่าน ในหลวงรัชกาลที่ 10 และ พระบรมวงศ์จักรีทุกพระองค์ให้พระองค์ทรงพระเจริญ

นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนเรารักประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า วันนี้ตัวแทนประธานหมู่บ้านภาษาอังกฤษชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทยทั้ง 4 ภูมิภาคได้ส่งตัวแทน ประธานภูมิภาคประธานจังหวัด ร่วมแสดงความยินดีฉลองรางวัลพระราชทาน ทั้ง 2 รางวัลพระราชทาน พร้อมกันนี้ได้ประชุมปรึกษาหารือแนวทางการขับเคลื่อนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในแต่ละจังหวัดโดยจะมีการขับเคลื่อนออกรณรงค์ให้ความรู้พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจาก ร .9 ถึง ร .10 ตามโครงการ "ปูเสื่อกินข้าว ฟังเรื่องเล่าสถาบันมหากษัตริย์" หลังจากนั้นจะรวมมวลมหาประชาชนผู้จงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์จาก ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และ ภาคใต้ เดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อถวายพระพรในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็น "วันพ่อแห่งชาติ'

                 นายอานนท์ ได้กล่าวอีกว่า ในวันนี้พวกเราได้รวมพลังกันทั้ง 4 ภาคทำบุญเบิกเนตร "พระพุทธเจ้าปางมารวิชัย" หรือ ชนะมาร หรือ สะดุ้งมาร โดยใช้ชื่อว่า "หลวงพ่อปราบมาร" ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งพระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำลงที่พระชานุ นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงที่พื้นธรณีในคราวที่พระองค์ทรงเอาชนะมารได้ ตามพุทธประวัติ สมัยพระบรมโพธิสัตว์ ก่อนพระพุทธเจ้าจะบรรลุธรรม ได้เสด็จไปประทับใต้ต้นมหาโพธิ์ในเวลาเย็น และนั่งสมาธิกำหนดจิตเจริญสมาธิภาวนา เพื่อการบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ แต่จิตของพระองค์ แทนที่จะคิดไปในทาง โลกุตตรธรรม กลับหันไปคิดถึง โลกิยสุข แต่เมื่อครั้งอยู่ครองเรือน ในหนหลัง และผู้แต่งปฐมสมโพธิกถา ได้แสดงการผจญในโลกิยสุขของพระบรมโพธิสัตว์โดยใช้การผจญของมารเป็นสัญญลักษณ์ ดังนี้ว่าเป็น พระยาวัสสวดีมารซึ่งคอยติดตามพระองค์อยู่ จึงเข้าขัดขวาง โดยขี่ช้างคิรีเมขละ นำเหล่าเสนามารจำนวนมากเข้ามารบกวน หวังให้พระองค์เกรงกลัวจะได้ลุกขึ้นเสด็จหนีไป แต่พระองค์ก็ยังประทับนิ่งเป็นปกติโดยมิได้ทรงหวั่นไหว พระยามารจึงโกรธมาก สั่งให้เสนามารกลุ้มรุมกันประหารพระองค์ พระองค์จึงทรงนึกถึงบารมี 10 ทัศ ที่ทรงบำเพ็ญสั่งสมมาทุกชาติ โดยทรงเหยียดพระหัตถ์ออกจากภายในกลีบจีวร แล้วทรงชี้แผ่นดินด้วยพระดรรชนี จนทำให้เกิดแผ่นดินไหว ในที่สุดพญามารยอมแพ้หนีไป:พิสิษฐ์  ชาญเจริญ










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น