กาฬสินธุ์- สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ประชาชนเริ่มปรับตัวให้เข้ากับฤดูกาล
ทั้งความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพ พบสองตายายสามี-ภรรยา ชาวบ้านสะอาดนาทม
ต.ลำคลอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าตำรับ “ข้าวหลามสูตรโบราณ” พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปิ้งไอเดียคิดสูตรทำ
“ข้าวหลามเม่า” เป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าและนักท่องเที่ยว ถือเป็นอาหารตามฤดูกาลรสชาติใหม่
ฉีกแนวไม่ซ้ำแบบใคร
และเป็นเจ้าเดียวในภูมิภาคนี้ จึงได้รับความนิยมขายตลอดวัน
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์
พบว่าอุณหภูมิเริ่มลดต่ำลง ส่งผลให้อากาศเริ่มหนาวเย็น โดยเฉพาะในช่วงเช้า
ชาวบ้านในกลุ่มผู้สูงอายุเริ่มก่อไฟผิงให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ขณะเดียวกันมีสองตายาย ซึ่งเป็นสามีภรรยาชาวบ้านสะอาดนาทม ต.ลำคลอง อ.เมือง
จ.กาฬสินธุ์ ได้ใช้บริเวณหน้าบ้าน ตรงข้ามสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว
(เขื่อนลำปาว)
ทำข้าวหลามขายให้กับเพื่อนบ้านและนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาผ่านมาเที่ยวเขื่อนลำปาว
จากการสอบถามทราบว่า นอกจากข้าวหลามจะเป็นอาหารตามฤดูกาลในหน้าหนาวแล้ว
สองตายายคู่นี้ยังทำขายตลอดปีด้วย โดยช่วงหน้าหนาวนี้ยังได้คิดสูตรทำ “
ข้าวหลามเม่า”
ซึ่งเป็นข้าวหลามสูตรใหม่ ที่ให้รสชาติ หอม นุ่ม มัน อร่อย
บรรยากาศการซื้อขายเต็มไปด้วยความคึกคักตลอดวันนางปราณี ผากา อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 132 หมู่
1 บ้านสะอาดนาทม ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนกับนายคำรณ ผากา อายุ 66
ปี สามี ทำข้าวหลามเพื่อจำหน่ายมาประมาณ 30 ปี
โดยลูกค้ามีทั้งเพื่อนบ้าน และนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวหาดดอกเกด
เขื่อนลำปาวและจุดผันน้ำ โดยใช้ไม้ไผ่พันธุ์ไม้ไผ่หนามหรือไม้ไผ่ป่าใหญ่ อายุ 1-3
ปี ซึ่งไม้ไผ่พันธุ์นี้สามารถทำข้าวหลามได้ตลอดปีนางปราณี กล่าวอีกว่า
การทำข้าวหลามของตนจะใช้ข้าวเหนียวเขาวง และข้าวใหม่ ซึ่งมีรสชาติหอม นุ่ม เหนียว
ทำสูตรโบราณหลายรส เช่น ข้าวเหนียวขาว ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวอัญชัน
ข้าวหลามใบเตย ส่วนผสมมีกะทิ น้ำตาลทราย ถั่วดำ มันเทศ
ต่อมามีการปรับปรุงรสชาติเข้ามาใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า เช่น
ข้าวหลามทุเรียน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จำหน่ายราคาบั้งละ 20-50 บาท และ
3 บั้ง 100 บาท ทั้งนี้ลงทุนครั้งละ 1,500 บาท ขายได้กำไรประมาณ 5,000 บาท
โดยที่ผ่านมาจะขายวันเสาร์-อาทิตย์ ข้าวหลามของเราจึงเป็นข้าวหลามสด
ไม่มีตกค้าง เพราะคำนึงถึงคุณภาพเป็นหลัก จึงสามารถยืนหยัดมาถึง 30 ปี
และมีลูกค้าตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่และรุ่นลูกเป็นขาประจำมาถึงทุกวันนี้“อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาวปีนี้
เพื่อเพิ่มเมนูข้าวหลามและทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ทั้งขาประจำและขาจร
จึงได้คิดสูตรข้าวหลามขึ้นมาใหม่ คือข้าวหลามเม่า
ซึ่งเป็นการนำเมล็ดข้าวเหนียวที่รวงกำลังจะแก่ ใกล้อายุเก็บเกี่ยวมาคั่วแล้วตำ
เพื่อคัดแยกเปลือกเมล็ดข้าวออก ก็จะได้เมล็ดข้าวเม่าสีเขียว มีคุณสมบัติอ่อนนุ่ม
เหนียว หอม จากนั้นนำมาผสมกับเมล็ดถั่วดำ มันเทศ บรรจุใส่กระบอกข้าวหลาม แช่ด้วยน้ำกะทิ
ปิดจุกด้วยใบตองแห้งและใบเตย เพื่อเพิ่มรสชาติที่หอมละมุน
ก่อนนำไปเผาไฟในระดับความร้อนที่พอดี จากนั้นนำมาปอกเปลือกไม้ไผ่ออกรอจำหน่าย
ทั้งนี้ จากการทดลองทำข้ามหลามเม่า ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
และจากการสอบถามลูกค้าทราบว่าเป็นเจ้าเดียวที่ทำข้าวหลามเม่าขาย ลูกค้าจึงชื่นชอบ
ทั้งซื้อรับประทานขณะเดินทางและซื้อเป็นของฝาก คือขายได้ตลอดวัน ทำแทบไม่พอขาย
โดยจำหน่ายเพียงบั้งละ 60 บาทเท่านั้น” นางปราณีกล่าว:ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น