กาฬสินธุ์ เกิดเหตุพระธาตุ 3 หุน ที่อำเภอกุฉินารายณ์
จังหวัดกาฬสินธุ์ อายุกว่า 108 ปีถล่ม ขณะที่คนงานก่อสร้างทำการบูรณะซ่อมแซม
เบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย และเสียชีวิต 1 คน
ขณะที่ชาวบ้านเชื่ออาถรรพ์ชี้ลางบอกเหตุมีควันพุ่งขึ้นมาบนหัวพระธาตุ
ก่อนจะถล่มทับคนงานก่อสร้างเชื่อทำผิดผี
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน
2561 ร.ต.อ.โสภณ บัวคำโคตร ร้อยเวร สภ.กุฉินารายณ์ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า
เกิดเหตุพระธาตุที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างภายในวัดป่ากุดหว้า ต.กุดหว้า
อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เกิดการทรุดตัวและถล่มลงมา
เบื้องต้นมีรายงานว่ามีคนงานก่อสร้างบาดเจ็บและเสียชีวิต
จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสาขากุฉินารายณ์
หน่วยกู้ภัย ทีม อปพร. ทีมแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์เข้าตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุ
ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างองค์พระธาตุดังกล่าวฯ
เจ้าหน้าที่พบสภาพอาคารที่ก่อสร้างครอบองค์พระธาตุพังถล่มลงมาเสียหายยับเยิน
มีเศษหิน เศษปูน และไม้ไผ่ ซึ่งเป็นนั่งร้านพังกระจัดกระจาย
โดยเฉพาะปลายยอดของพระธาตุเดิมหักลงมาอย่างน่าใจหาย
ท่ามกลางความเสียใจของชาวบ้านและต่างจับกลุ่มพูดคุยกัน
และพบคนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 4 คน
นอนร้องขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด เนื่องจาก แขนและขาหัก
เจ้าหน้าที่และทีมกู้ภัยและชาวบ้านจึงได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์
ทราบชื่อคนบาดเจ็บคือ นายคาย ชานชาย อายุ 45 ปี , นายพานนา แม อายุ 39 ปี,นายตุลา มาวตุลา อายุ 23 ปี
และนางฉุเปา (ชาวพม่า) อายุ 41 ปี ได้รับ และทราบว่ายังมีติดอยู่ภายซาก 1 คน
เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมทีมกู้ชีพเข้าค้นหา
ซึ่งพบว่าเสียชีวิตโดยติดอยู่ใต้ฐานจุดกึ่งกลางขององค์พระธาตุ ทราบชื่อคือนายวรรณ
พระเขียว อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 95 หมู่ที่ 4 ต.โนนอุดม อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา
เป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3
ชั่วโมงก่อนที่จะค้นหาจนพบศพ และนำออกมาด้วยความยากลำบาก
เนื่องจากเกรงว่าผนังปูนจะถล่มลงมาซ้ำอีก
หลังเกิดเหตุนายไกรสร
กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้นายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ นายอำเภอกุฉินารายณ์
พร้อมด้วยนายโสภณ เจริญพร หัวหน้าปภ.สาขากุฉินารายณ์ นายภิรมณ์ อุทรักษ์
นายกอบต.กุดหว้า นายสาริกา อุทรักษ์
นายกเทศบาลกุดหว้า นายธนเสฏฐ์ ชัยสงครามชนะทัต นายกเทศมนตรีเมืองบัวขาว
พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยกุดหว้า เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
และทีมแพทย์ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบเบื้องต้นว่า
ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้นเป็นคนงานก่อสร้างที่มาจาก จังหวัดนครราชสีมา โดยมี
นายวรรณ พระเขียว อายุ 56 ปี เป็นหัวหน้าคนงานซึ่งเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
โดยได้เดินทางมารับเหมจ้างช่วงในการก่อสร้างองค์พระธาตุแห่งนี้
ด้านนายพิชัย
ส่งสุขเลิศสันติ นายอำเภอกุฉินารายณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพระธาตุที่ถล่มนี้คือ
พระธาตุ 3 หุน อายุกว่า 108 ปี ซึ่งทางวัดได้เริ่มบูรณะซ่อมแซมในปี
2557ด้วยลักษณะทำครอบขึ้นให้สูงถึง 39 เมตร แต่ มาถึงระดับความสูงที่ 29 เมตร
คาดว่าการก่อสร้างไม่แข็งแรงจึงทำให้เกิดถล่ม
เบื้องต้นได้ประสานสำนักงานโยธาธิการและฝังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์
เข้ามาร่วมตรวจสอบแล้ว
ขณะที่ นางเมือง
สะอาดแพน อายุ 70 ปี ชาวบ้านกุดหว้า ม.13 ต.กุดหว้า กล่าวว่า
เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นจอมปลอกขนาดใหญ่ ซึ่งชาวบ้านเห็นแสงไฟปรากฏออกมานานถึง7วัน
นับเป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างยิ่ง
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะมีใครสักคนไปทำสิ่งที่ผิดจนเกิดอาถรรพ์
เพราะก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนและชาวบ้านได้มาทำบุญถวายภัตตาหารเช้าเห็นควันไฟพวยพุ่งออกมาจากพระธาตุ
แต่ก็ไม่เอะใจอะไรเพราะนึกว่าพระจุดไฟเผาขยะแต่เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆก็ไม่พบว่ามีใครจุดไฟ
กระทั่งคนงานก่อนสร้างเข้ามาทำงานตอนสายก็เกิดถล่มดังกล่าว
สำหรับวัดป่ากุดหว้าแห่งนี้มีบันทึก
โดย พระครูอดุลอรรถกิจ เจ้าคณะอำเภอกุฉินารายณ์ เมื่อ วันที่ 15 มีนาคม 2528
เป็นบันทึกแผ่นหิน ในพิธีวาวศิลาฤกษ์ ระบุว่า วัดป่ากุดหว้า สร้างเมื่อปี พ.ศ.
2510 และระบุว่าธาตุนี้สร้างเมื่อวัน 5 แรม 10 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู ตรงกันวันที่ 28
มีนาคม ร.ศ.96 จ.ศ.1239 แต่นั้นมาได้ 108 ปี แรกเรียกชื่อว่า พระธาตุ 3
หุน เพราะมีคน 3 คน มาสร้างไว้ คือ 1.พระธุดงศ์ (ฝ่ายอรัญญวาสี) 2.พระครู
(ฝ่ายคามวาสี) มาจากฝั่งซ้าย 3.ชีปขาว อีกผู้หนึ่ง ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใครสนใจ
แต่บางคนก็รู้บ้างว่าเป็นธาตุดิน
อยู่มาปี
2513
ข้าพเจ้าไปอบรมพัฒนาท้องถิ่นที่วัดมหาธาตุกรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 เดือน 15
วันมีพระอาจารย์สมบูรณ์ จังหวัดราชบุรี บอกว่าที่วัดท่านมีธาตุดินเก่าอยู่ทางทิศเหนือของวัด
จะครบ 108 ปี เมื่อถึง พ.ศ.2528 นี้
จึงขอให้ท่านเพิ่มเติมเสริมสร้างไว้บ้างจะได้เป็นที่กราบไหว้สักการะบูชา
ของพุทธศาสนิกชนรุ่นหลังต่อไป ข้าพเจ้าได้รับคำบอกเล่าจากท่านเช่นนั้น
เมื่อกลังมาก็คิดเล่าว่าที่ไหนจะเป็นองค์พระธาตุแท้ตามที่ท่านพูดไว้ อยู่มาในเดือน
11 ปี พ.ศ.2513 นั่นเอง ได้มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นคือ รากหญ้าคาเกิดเป็นแสงอยู่ 7
วันในบริเวณธาตุนี้ จึงรู้ว่า โพนดินนี้เป็นธาตุ
จึงได้เชิญชวนญาติพี่น้องทั้งหลายได้วางสีลาฤกษ์สร้างธาตุนี้
ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม -ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น