วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

มุกดาหาร ทสจ.ตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำถูกชาวบ้านบุกรุกกว่า 300 ไร่


            มุกดาหาร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่หลังจากได้รับร้องเรียนว่ามีชาวบ้านบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมู ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 5 จุดกว่า 300 ไร่ ไปประกอบเกษตร อาทิ ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย และยางพารา 
            นายสุรเดช  อัคราช ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย ผอ. ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ผอ. ศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ มห1(คำป่าหลาย) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปทส.  ได้ร่วมกันออกตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมู ท้องที่ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร ตามที่มีผู้ร้องเรียนและที่กรมป่าไม้แจ้งพิกัดมาให้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว     


           ปรากฏว่า มีผู้เข้าไปลักลอบบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า และนำพื้นที่ไปประกอบการเกษตร เพื่อปลูกมันสำปะหลัง อ้อย และปลูกยางพารา ซึ่งเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าใหม่ จำนวน 5 จุด พื้นที่ป่าถูกบุกรุกประมาณ 300 ไร่  จึงมอบหมายให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห 1 (คำป่าหลาย) นำเรื่องเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้เตรียมการเพื่อหาทางฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกให้กลับมาสมบูรณ์โดยเร็ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบสูงและเป็นป่าต้นน้ำลำธารของจังหวัดมุกดาหาร
           ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร  กล่าวว่า เมื่อมาถึงวันนี้รัฐบาลประกาศนโยบายทวงคืนผืนป่า โดยยึดพื้นที่ทำกินที่ชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางเอาคืนมาปลูกป่า ขณะที่พื้นที่ป่าที่ต้องการเพื่อทำหน้าที่หล่อเลี้ยงชาวบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศมีจำนวนน้อย และเทียบไม่ได้กับพื้นที่ที่จะต้องดูแลป้องกันการบุกรุกหรือตามทวงคืน และขณะที่ชาวบ้านที่ไร้ทางเลือกก็ต้องอยู่รอด เพราะไม่เช่นนั้นความขัดแย้งจะขยายตัวต่อเนื่อง สามารถปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นต้นทุนประเทศเอาไว้ได้อย่างยั่งยืนอยู่รอดไปได้พร้อมๆ กับคนในพื้นที่ไม่สร้างความขัดแย้ง และทุกฝ่ายอยู่ได้ตามสมควรแก่อัตภาพต่อไป 

         แนวพระราชดำริเกี่ยวกับป่าไม้  ปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกแผ้วถางและพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม  ปลูกป่าบนภูเขาสูงเนื่องจากสภาพป่าบนเขาสูงทรุดโทรมซึ่งจะมีผลกระทบต่อลุ่มน้ำตอนล่าง ปลูกป่าต้นน้ำลำธารไม่มีคนบุกรุก  อย่าให้คนเข้าไปตั้งหลักแหล่งใหม่ หากไม่มีคนก็ดีแล้ว อย่าได้นำเข้าไปอีก  ปลูกป่าแซมบ้างในบางส่วนที่เสื่อมโทรม  ในกรณีเขาสูงอาจจะใช้ไม้จำพวกที่มีเมล็ดทั้งหลายขึ้นไปปลูกบนยอดที่สูง  เมื่อโตแล้วออกเมล็ด  เมล็ดก็จะลอยตกลงมาแล้วงอกเองในที่ต่ำต่อไป  เป็นการขยายพันธุ์โดยธรรมชาติ  ในสภาพป่าเต็ง – รัง  ป่าเสื่อมโทรมนั้นความจริงไม่ต้องทำอะไร เพราะตอไม้ก็จะแตกกิ่งออกมาอีก ถึงแม้ต้นไม่สวยแต่ก็เป็นต้นใหญ่ได้ ตามพื้นที่ก็มีต้นไม้เล็ก ๆ หรือเมล็ดที่งอกงามขึ้นมาอีก  อย่าให้ใครเข้าไปบุกรุกทำลายอีก ป่าก็จะกลับคืนสภาพได้ วัชพืชที่คลุมพื้นที่อยู่อย่าเอาออก  เพราะจะเป็นสิ่งป้องกันการเซาะพังทลายของหน้าดินเป็นอย่างดี  และเก็บความชื้นไว้ได้ด้วย  ถ้าจะปลูกแซมก็เพียงแต่เจาะวงกลมประมาณ  50  ซม.  แล้วก็ปลูกต้นไม้วัชพืชที่อยู่รอบ ๆ ก็จะบังไพรกันแดดได้ด้วย  โดยไม่ต้องทำที่กันแดดให้สิ้นเปลือง  

จำแนกสมรรถนะของที่ดินให้เหมาะสม  ที่ดินที่สามารถทำประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรมได้    ก็ให้ใช้ทำเกษตรกรรมและพื้นที่ใดไม่สามารถทำเกษตรกรรมได้ก็ให้มีการรักษาสภาพป่าไม้  โดยให้มีการปลูกป่า  โดยใช้ไม้  3  ชนิด  ได้แก่  ไม้สำหรับใช้สอย  ไม้ผล  และไม้สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง    การปลูกป่าธรรมชาติหรือปลูกป่าต้นน้ำลำธาร  ควรศึกษาดูก่อนว่าพืชพันธุ์ไม้ดั้งเดิมมีอะไรบ้าง  แล้วปลูกซ่อมแซมตามรายการชนิดต้นไม้ที่ศึกษามาได้  ไม้ควรนำไม้แปลกปลอมต่างพันธุ์  ต่างถิ่นเข้ามาปลูก  โดยยังไม่ได้ศึกษาอย่างแน่ชัดเสียก่อน  อย่างไรก็ตามในพื้นที่บางพื้นที่อาจจะใช้ไม้โตเร็วที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย  เช่น  ต้นยางพารา  ปลูกเป็นต้นไม้นำก่อนก็ได้   ให้ชาวบ้านร่วมกิจกรรมตั้งแต่ต้น  และควรมีประโยชน์จากกิจกรรมด้วย  เช่น  ให้เพาะกล้าแล้วซื้อจากเขาแทนที่จะต้องผลิตต้นกล้าภายในพื้นที่ของตนเองแล้ว  ทางราชการหรือเอกชนไปซื้อจากชาวบ้านให้ชาวบ้านมีรายได้ด้วย  ปลูกป่าเพื่อให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น  โดยให้ราษฎรในท้องที่นั้น ๆ เข้าร่วมกิจกรรม  เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจให้ราษฎรเห็นความสำคัญของป่าและการปลูกป่า   อย่าได้ใช้ยาฆ่าวัชพืชหรือยาฆ่าหญ้ามาใช้เป็นอันขาด  เพราะร้ายแรงมาก  นอกจากฆ่าหญ้าแล้วยังตกค้างเป็นพิษอยู่ในพื้นดินเป็นเวลานาน   วัชพืชขนาดใหญ่และหนา  เช่น ดงหญ้าคา  คงต้องกำจัดบ้างก่อนปลูกป่า  แต่วัชพืชใน     ป่าเต็ง – รัง  ในป่าต้นน้ำลำธารไม่ต้องขจัดออก  ในป่าต้นน้ำลำธารไม่ควรให้มีสิ่งปลูกสร้างอะไรทั้งสิ้น  ควรรักษาควบคุมให้ได้   ปลูกป่าเสริมธรรมชาติ  เป็นการเพิ่มที่อยู่อาศัยแก่สัตว์ป่า  ควรปลูกแฝกเพื่อป้องกันดินพังทลายพร้อมทั้งรักษาหน้าดิน  และสร้าง Top – Soil   เก็บความชุ่มชื้นพร้อมกับการปลูกป่า  อาจจะปลูกจากร่องน้ำขึ้นไป   และร่องน้ำเองอาจจะปลูกเป็นรูปตัว  V  คว่ำ  เพื่อชลอน้ำและกระจายความแรงออกไปพร้อมทั้งดักตะกอนไว้ได้ด้วย  การปลูกป่าควรศึกษาพื้นที่พร้อมระบบเรื่องน้ำด้วย  ในพื้นที่ภูเขาควรจะสร้างฝายแม้ว        หรือ Check Dam  เพื่อกักน้ำไว้สร้างความชุ่มชื้นให้ยาวนานขึ้น  และเป็นระบบกันไฟเปียกด้วย  ดังตัวอย่างที่ศูนย์ศึกษาฯ ห้วยฮ่องไคร้  อำเภอดอยสะเก็ด  จังหวัดเชียงใหม่…..
                                        ********************* 
อนุศักดิ์ – เสาวภา   แสนวิเศษ / มุกดาหาร  081-5449094






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น