กาฬสินธุ์
- คณะกรรมการตรวจสอบทุจริตโครงการ 9101 ฟื้นฟูน้ำท่วม จังหวัดกาฬสินธุ์
ระบุพบการซื้อปัจจัยการผลิต พันธุ์ข้าว สารปรับปรุงดินแพงมีส่วนต่าง 1 ล้าน กรรมการทำสัญญาซื้อขายเองผิดระเบียบ
และจัดส่งพันธุ์กบให้กับเกษตรกรผิดสเปก
เตรียมสรุปผลสอบชงผู้ว่าราชการจังหวัดฟันข้าราชการและผู้นำชุมชนร่วมกันแสวงหาผลประโยชน์
จากกรณีชาวบ้านพบความผิดปกติการซื้อปัจจัยการผลิตโครงการ
9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดในหลายพื้นที่ของ
จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด
ซึ่งมีการตั้งราคาซื้อพันธุ์ข้าวเปลือกนาปรัง พันธุ์ปลาดุก หัวอาหาร
และสารปรับปรุงดินแพงกว่าท้องตลาด และในพื้นที่ อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.ห้วยผึ้ง
เขาวง และ อ.สมเด็จ
มีการจัดซื้อพันธุ์ปลาดุกขนาดเล็กไม่เหมาะสมกับราคา อีกทั้งยังมีหัวอาหารปลาดุก
และปุ๋ยชีวภาพมีราคาแพงกว่าท้องตลาด
จนชาวบ้านต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องทุกข์กับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมเรียกร้องให้ตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ไม่ใช่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน
ล่าสุดเมื่อวันที่
9 มกราคม 2561 พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.รมน.กาฬสินธุ์
ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ
ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด
จ.กาฬสินธุ์ นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ นายอำเภอยางตลาด นายอภิรัตน์ ภูตีกา
เกษตรอำเภอยางตลาด นายสนุน แจะหอม นิติกรศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์
ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบปัญหาการแจกจ่ายพันธุ์กบให้กับเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมบ้านโคกก่อง
ม.7 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตามโครงการ 9101 ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม
หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนชนว่า มีการแจกจ่ายพันธุ์กบผิดสเปก
หัวอาหารผิดประเภท และราคาแพง จนทำให้กบตายจำนวนมาก โดยการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบเกษตรกรที่เข้าร่วมกลุ่มเลี้ยงกบ
บ้านโคกก่องหลายราย และส่วนใหญ่ได้รับการแจกจ่ายกบในรอบแรกอายุประมาณ 4-5 เดือน
ซึ่งคณะกรรมการและผู้รับเหมาอ้างว่าเป็นพันธุ์พ่อกบ แม่กบ คนละ 15 ตัว
แยกเป็นกบตัวเมีย 13 ตัว และตัวผู้ 2 ตัว
ซึ่งไม่ตรงกับอัตราส่วนของกบตัวผู้และตัวเมีย และเกิดปัญหากบทยอยล้มตายทุกวัน
และบางรายกบตายทั้งหมด เนื่องจากกบมีแผลตามตัว และยังมีอายุน้อย
จากนั้นคณะกรรมการและผู้รับเหมาจึงได้นำกบมาซ่อมทดแทนให้กับเกษตรกรตามจำนวนกบที่ตาย
แต่ก็ยังประสบปัญหากบทยอยล้มตายเช่นเดิม
เนื่องจากกบที่นำมาส่งในรอบใหม่ก็ยังเป็นกบที่มีอายุน้อยและไม่เหมาะสมเป็นพ่อพันธุ์
แม่พันธุ์ อีกทั้งหัวอาหารที่นำมาแจกจ่ายก็เป็นหัวอาหารปลาดุกผิดประเภท
และราคากระสอบละ 600 บาท ซึ่งสูงกว่าท้องตลาด
พ.อ.มานพ
ไขขุนทด รอง ผอ.รมน.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า
สำหรับการตรวจสอบปัญหาการแจกจ่ายพันธุ์กบให้กับประชาชนที่บ้านโคกก่อง ม.7 นั้น
พบว่า เป็นการส่งปัจจัยการผลิตผิดสเปก ไม่ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน
เนื่องจากชาวบ้านต้องการพันธุ์กบเล็กมาเลี้ยง ซึ่งจะได้คนละประมาณ 2,000 ตัว
แต่กลับมีการนำกบอายุประมาณ 4-5 เดือน และอ้างว่าเป็นพ่อพันธุ์
แม่พันธุ์กบมาแจกจ่าย และกบไม่สมบูรณ์ จึงเกิดปัญหากบตาย
อีกทั้งยังมีการนำหัวอาหารปลาดุกมาให้ ซึ่งผิดประเภทและราคาแพง
พ.อ.มานพ
กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบในพื้นที่
ต.บัวบานยังพบการจัดซื้อปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวเปลือก
และสารปรับปรุงดินราคาสูงกว่าท้องตลาด ซึ่งรวมทั้งสองอย่างมีส่วนต่างของราคาอยู่ที่ชุดละ
500 บาท และหากเทียบกับยอดการจัดซื้อพันธุ์ข้าวอย่างน้อยประมาณ 2,000 กระสอบ
และสารปรับปรุงดินอีก 2,000 กระสอบ จะมีส่วนต่างอย่างต่ำอยู่ที่ประมาณ 1,000,000
บาท โดยส่วนต่างเหล่านี้จะเป็นกำไรของผู้รับเหมาและส่วนหนึ่งจะอยู่ที่ข้าราชการและกลุ่มผู้นำชุมชนที่ร่วมกันแสวงหาผลประโยชน์
อย่างไรก็ตามนอกจากปัญหาการซื้อปัจจัยการผลิตแพงและส่งของผิดสเปกแล้ว
ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบการทำสัญญาซื้อขายของประธานและคณะกรรมการที่มีการจัดซื้อปัจจัยการผลิตเองทั้งหมด
ซึ่งเป็นเป็นการทำผิดระเบียบ และเจตนาดำเนินการที่ส่อไปในทางทุจริตตั้งแต่ต้น
โดยเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการตรวจสอบจะสรุปผลส่งให้กับผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์
เพื่อพิจารณาลงโทษตามขั้นตอนต่อไปภายในสัปดาห์นี้
ด้านนายจำลอง
พลโคกก่อง อายุ 63 ปี ชาวบ้านโคกก่อง ม.7 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า
โครงการ 9101 ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นโครงการที่ดี
หากเจ้าหน้าที่มองผลประโยชน์และดำเนินการให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง
เช่น การแจกจ่ายพันธุ์กบให้กับชาวบ้านหากนำกบที่มีคุณภาพมาให้ก็จะเป็นประโยชน์
แต่กลับเป็นการนำกบอายุไม่น่าเกิน 6 เดือนมาให้ และบอกว่าเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์
ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ปกติก็เพาะพันธุ์ลูกกบ เลี้ยงกุ้ง
และเลี้ยงปลาขายอยู่แล้ว จึงรู้ดีว่าไม่ใช่พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์
อีกทั้งยังนำกบที่ไม่สมบูรณ์มาให้จนมีแผลและตายไปแล้วจำนวนมาก
เท่ากับเป็นการนำภาระมาให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น
เป็นโครงการเปล่าประโยชน์และไม่คุ้มกับเงิน 5,000
บาท จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการช่วยเหลือ
ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม - ภาพ/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น