กาฬสินธุ ์- กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ
ลงพื้นที่ติดตามปัญหาชาวบ้านถูกหลอกกู้เงิน 65 ล้านบาทกับธนาคารออมสิน สาขา
ท่าคันโท เชื่อถูกหลอกให้เซ็นเบิกเงินพร้อมตั้งทนายความสู้คดี กรณีชาวบ้าน
4 ตำบลในเขต อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 300คน อ้างว่าถูกสถาบันการเงินหลอกให้กู้เงินคนละ
2 แสนบาทรวมมูลค่า 65 ล้านบาท
ก่อนได้รับใบแจ้งหนี้และหมายศาลกระทั่งเกิดการคัดค้านและไม่ยอมจ่ายเงินตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่
6 มกราคม 2561 พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม
ซึ่งติดตามลงพื้นที่ร่วมกับ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี
เพื่อร่วมหารือข้อราชการโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เน็ตโมเดล
พ.ต.ท.ประวุธ
วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ปัญหาการร้องทุกข์
กรณีสถาบันการเงินในพื้นที่อำเภอท่าคันโทจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่ใช่เรื่องเก่า
เพราะผู้เสียหายในคดีได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับ ตำรวจ สภ.ท่าคันโท
แล้วแต่ดูเหมือนว่าผู้เสียหายในคดีนี้จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้เข้าไปร้องต่อกระทรวงยุติธรรมรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่าจากการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 5 มกราคม
2561 มีผู้เสียหายในคดีประมาณ 300 คน แต่ละรายอ้างว่าถูกหลอกกู้เงินกับธนาคาร
เฉลี่ยคนละ 50,000. บาท ถึง 100,000 บาท แต่ที่มีปัญหาคือ ไม่ได้ใช้เงินที่กู้มา ซึ่งดีเอสไอพบมีคู่กรณีที่เกี่ยวข้องในคดีนี้จำนวน
2 ราย
เป็นคนในสถาบันการเงินอ้างให้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการสมทบทุนและจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ
หนึ่งหมื่นบาทและจะทำการชดใช้หนี้เงินกู้ต่อธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโท ด้วย
จนทำให้ธนาคารออมสิน เมื่อไม่ได้รับการชำระหนี้ก็ได้ทำการฟ้องเรียกค่าเสียหาย
“กรณีดังกล่าว
ดีเอสไอ ได้รับการสั่งการจากปลัดกระทรวงยุติธรรม
ให้ช่วยจัดหาทนายความเข้ามาต่อสู้คดี ข้อสังเกตในเรื่องนี้
ชาวบ้านที่ให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ได้ทำการเซ็นทำสัญญาที่ธนาคารครั้งเดียว
แสดงว่าในการเซ็นครั้งนั้นชาวบ้านน่าจะเซ็นใบถอนเงินไปด้วย และการเซ็นครั้งนั้นเป็นไปได้ว่าชาวบ้านไม่รู้
หรือด้วยความเชื่อในตัวบุคคลจึงเซ็นไป” ซึ่งดีเอสไอ
ก็จะนำเสนอข้อมูลตรงนี้เพื่อนำไปเสนอต่อศาลต่อไป” รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวในที่สุด
(ยุทธนา
เกียรติดำเนินงาม - ภาพ/ข่าว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น